Page 25 - เอกสารคำสอนทวารวดี - ศรีวิชัย
P. 25

- ลัทธิมหายาน (นิกายสุขาวดี) ราวกลางพุทธศตวรรษที่ 11 - กลางพุทธศตวรรษที่
                       15
                                 - ลัทธิตันตระยาน (ได้แก่ กลุ่มจรรยาตันตระ, กลุ่มโยคะตันตระ,กลุ่มอนุตตระ-โยคะ

                       ตันตระ) ราวต้นพุทธศตวรรษที่ 14 - ต้นพุทธศตวรรษที่ 19

                                 - นิกายเถรวาท (อริยารหันตปักขะ และกัมโพชสงฆ์ปักขะ) ราวต้นพุทธศตวรรษที่
                       15 - ต้นพุทธศตวรรษที่ 20
                                 - นิกายเถรวาท (คณะมหาวิหาร) ราวต้นพุทธศตวรรษที่ 20 - ครึ่งหลังพุทธศตวรรษ

                       ที่ 21

                                 - สยามนิกาย ราวกลางพุทธศตวรรษที่ 21 - ต้นพุทธศตวรรษที่ 25
                                 - ธรรมยุติกนิกาย ราวครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 21 – ปัจจุบัน
                              2)  พราหมณศิลป์

                                 - ศิลปะเนื่องใน 6 ลัทธิภักติทรรศนะ (ได้แก่ ลัทธิไวษณพ นิกายภาควัตและนิกาย

                       ปาญจราตระ, ลัทธิไศวะ นิกายปาศุปัต, ลัทธิเสาระ, ลัทธิคาณปัตยะ, ลัทธิเกามาระ) ก่อนกลาง
                       พุทธศตวรรษที่ 14
                                 - ศิลปะเนื่องใน 3 ลัทธิหลัก (ได้แก่ ลัทธิไวษณพ, ลัทธิไศวะ, ลัทธิศากตะ)

                       หลังกลางพุทธศตวรรษที่ 14

                              น่าสังเกตว่าในการจัดแบ่งรูปแบบศิลปกรรมข้างต้นผู้ศึกษาจ าเป็นจะต้องเข้าใจถึง
                       ลักษณะรูปภาพหรือความหมายของรูปเคารพต่างๆ อย่างถ่องแท้จึงจะสามารถจัดจ าแนกได้
                       อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ดร.พิริยะ ไกรฤกษ์ นั้นเป็นนักวิชาการไทยไม่กี่คนที่พยายาม

                       เชื่อมโยงข้อมูลหลักฐานทางศิลปกรรมหรือหลักฐานโบราณคดีกับชื่อบ้านเมืองในเอกสารจีน

                       โบราณ เช่น ดันซุน, พัน-พัน เป็นต้น ซึ่งท าให้แลเห็นความเคลื่อนไหวทางประวัติศาสตร์ของ
                       ชุมชนโบราณต่างๆ ได้มากกว่าการวิเคราะห์เพียงรูปแบบและอายุสมัยของหลักฐานชิ้นนั้นๆ
                                                                                                      55
                              ไม่เพียงแต่การปรับเปลี่ยนชื่อเรียกยุคสมัยหรือแบบศิลปะในประเทศไทยเท่านั้น

                       แต่ข้อคิดเห็นของ ดร.พิริยะ ไกรฤกษ์ หลายประเด็นยังส่งผลกระทบต่อการศึกษาโบราณคดีสมัย

                       ประวัติศาสตร์ในประเทศไทยด้วย อาทิเช่น มีร่องรอยหลักฐานของการเจริญขึ้นของพุทธศาสนา
                       นิกายสุขาวดีในสมัยทวารวดี อันเป็นผลมาจากการเจริญรุ่งเรืองของนิกายนี้ในประเทศจีนสมัย
                       ราชวงศ์สุยและราชวงศ์ถัง  หรือการปรับเปลี่ยนอายุเวลาของสถาปัตยกรรมในสมัยสุโขทัยและ
                                             56
                       สมัยอยุธยา โดยท่านมีความเห็นว่าสิ่งก่อสร้างที่เชื่อว่าสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยหรืออยุธยา

                       ตอนต้นนั้นน่าจะสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายเสียมากกว่า  เป็นต้น
                                                                            57
                              อาจกล่าวได้ว่า ข้อเสนอหรือแนวคิดของ ดร.พิริยะ ไกรฤกษ์ นั้นมีความน่าสนใจ
                       เพราะอย่างน้อยที่สุดก็เป็นการจุดประเด็นให้นักวิชาการได้ช่วยกันพินิจพิเคราะห์ข้อมูลหลักฐาน

                       อย่างถี่ถ้วนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้การท างานของกรมศิลปากรและภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี

                       (รวมทั้งสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องบางแห่ง) ในช่วงเกือบ 40 ปีที่ผ่านมาก็ได้พยายามน าเอา




                                                               19
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30