Page 7 - เอกสารคำสอนทวารวดี - ศรีวิชัย
P. 7
บทที่ 1
บทน ำ
“โบรำณคดี” (Archaeology) คือการศึกษาเรื่องราวของมนุษย์ในอดีตในทุกแง่ทุกมุม
ทั้งด้านสภาพสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง เทคโนโลยี การตั้งถิ่นฐาน
สภาพแวดล้อม สุขภาพ ฯลฯ นักโบราณคดีนั้นมีค าถามอย่างง่ายๆ คือ มนุษย์ (human)
ในอดีตท ำอะไร ? (what ?) ที่ไหน ? (where ?) เมื่อไหร่ ? (when ?) และเหตุใดจึงท ำ
เช่นนั้น ? (why ?) โดยการศึกษาทางโบราณคดีมีความเกี่ยวข้องกับ 2 ปัจจัยหลักคือ สถำนที่
(space) และเวลำ (time) เพราะอย่างน้อยที่สุดนักโบราณคดีจะต้องอธิบายในเบื้องต้นให้ได้ว่า
มนุษย์ท าอะไรที่ไหนและเมื่อไหร่ ? ด้วยเหตุนี้จึงมีการจัดแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์และ
โบราณคดีเพื่อให้สะดวกต่อการศึกษาและการท าความเข้าใจล าดับพัฒนาการทางสังคมและ
วัฒนธรรมของมนุษย์
1
1.1 กำรแบ่งยุคสมัยทำงประวัติศำสตร์และโบรำณคดีในประเทศไทย
โดยทั่วไปแล้วยุคสมัยทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีแบ่งออกเป็น 2 สมัย คือ
สมัยก่อนประวัติศาสตร์ (prehistoric period) และสมัยประวัติศาสตร์ (historical period) โดยมี
ความหมายอย่างง่ายๆ ดังนี้
1) สมัยก่อนประวัติศำสตร์ หมายถึง ช่วงเวลาที่มนุษย์ยังไม่รู้จักการประดิษฐ์
ตัวอักษรขึ้นใช้เพื่อการสื่อสาร ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือในสมัยของมนุษย์โฮโม
อีเรคตัส (Homo erectus) หรือมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล (Homo neanderthalensis)
ซึ่งมีอายุหลายแสนหรือหลายหมื่นปีมาแล้ว เป็นต้น
2) สมัยประวัติศำสตร์ หมายถึง ช่วงเวลาที่มนุษย์ประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้เพื่อ
การสื่อสารและนักวิชาการสามารถอ่านและแปลความเรื่องราวเหล่านั้นได้แล้ว
โดยตัวอักษรที่เก่าที่สุด (อักษรคูนิฟอร์ม) ค้นพบที่อารยธรรมเมโสโปเตเมียใน
ภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งมีอายุราว 5,000 ปีมาแล้ว
นอกจากนี้ยังได้มีการก าหนดช่วงเวลาที่เรียกว่า “สมัยกึ่งก่อนประวัติศำสตร์” หรือ
“สมัยหัวเลี้ยวประวัติศำสตร์” (proto-historic period) อันเป็นช่วงรอยต่อระหว่างสมัยก่อน
ประวัติศาสตร์และสมัยประวัติศาสตร์ขึ้น โดยมีค าอธิบายเป็น 2 กรณี คือ
1) เป็นช่วงเวลาที่มนุษย์ได้ประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้ในการสื่อสารแล้ว แต่นักวิชาการยัง
ไม่สามารถอ่านและแปลความเรื่องราวเหล่านั้นได้ เช่นในกรณีของอารยธรรม
ลุ่มแม่น ้าสินธุในประเทศอินเดียและปากีสถาน ซึ่งค้นพบตราดินเผาที่มีสัญลักษณ์
1