Page 11 - เอกสารคำสอนทวารวดี - ศรีวิชัย
P. 11

ข้อความตอนหนึ่งในบันทึกของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์กล่าวว่า “...ได้ชัณสูตรขุดลงไป
                       ดูลึกสองศอกสามศอกบ้าง พบอิฐยาวศอกหนึ่งหน้าใหญ่สิบสองนิ้ วหน้าน้อยหกนิ้ ว

                                                                                             9
                       ก็เป็นพื้นอยู่ พิเคราะห์ดูเห็นว่าจะเป็นองค์พระเจดีย์เดิมจะหักพังลงมา...”  ข้อควำมนี้
                       เป็นหลักฐำนเอกสำรที่กล่ำวถึงกำรขุดค้นครั้งแรกเพื่อตรวจสอบของโบรำณในประเทศ

                       สยำม ก่อนจะมีกำรวำงรำกฐำนกำรศึกษำขุดค้นทำงโบรำณคดีอย่ำงเป็นระบบในเวลำ

                            10
                       ต่อมำ
                              ไม่เพียงแต่ทรงสนพระราชหฤทัยในการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระปฐมเจดีย์เท่านั้น

                       พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังมีพระราชนิพนธ์ถึงศิลาจารึกคาถา เย ธมฺมา ขุดพบ
                       บริเวณพระปฐมเจดีย์ พระองค์ทรงกล่าวอีกว่า ในบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ยังเคยพบจารึก

                                                                 11
                       คาถา เย ธมฺมา บนแผ่นอิฐ และบนพระพิมพ์ด้วย
                              ในสมัยรัชกาลที่ 4 พระบรมวงศานุวงศ์อีกท่านหนึ่งที่ให้ความสนพระทัยในเรื่อง

                       ประวัติศาสตร์โบราณคดีคือ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยากรณ์ ซึ่งได้มี
                       พระนิพนธ์เรื่อง “พระปฐมเจดีย์” ทรงกล่าวว่าเคยมีโบราณสถานอยู่เป็นจ านวนมาก ดังนี้

                       “แผ่นดินในเมืองนั้นก็หนาสูงขึ้นมาก วัดวิหารเจดียสถานหักพังจมลงอยู่ใต้ดินมีมากหลายแห่ง
                                                                                             12
                       หลายต าบล เขาเล่าว่าสองศอกบ้าง สามศอกบ้าง สามศอกเศษบ้างต่างๆกัน...”   ทั้งยังทรง
                                                                  13
                       กล่าวถึงพระพิมพ์ดินเผาและธรรมจักรศิลาอีกด้วย
                              ดังนั้นจึงน่ำสังเกตว่ำงำนโบรำณคดีระยะแรกเริ่มในสยำมประเทศเริ่มต้นขึ้นที่

                       เมืองนครปฐมซึ่งเป็นเมืองโบรำณส ำคัญในสมัยทวำรวดี
                              ใน พ.ศ. 2397 รัชกาลที่ 4 ยังทรงออกหมายประกาศเขตรังวัดผู้ร้ายขุดวัด

                       โดยก าหนดให้ราษฎรที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ห่างจากศาสนสถานและวัดร้างในระยะ 4 เส้นโดยรอบมี
                       หน้าที่สอดส่องดูแลมิให้ผู้ร้ายลักลอบขุดหาทรัพย์สิน ได้ก าหนดพินัยปรับแก่ราษฎรผู้เพิกเฉย

                       โดยมีพระราชด ารัสส าคัญว่า “....เพราะของที่เป็นของท่านท าไว้สร้างไว้แต่ก่อนด้วยอิฐปูน
                       ศิลาใดๆ ใหญ่ก็ดี เล็กก็ดี ถึงจะคร ่าคร่าช ารุดทรุดโทรมไปแล้ว ก็ยังเป็นเครื่องประดับ

                                    14
                       พระนครอยู่...”  นอกจากนี้ ใน พ.ศ. 2402 รัชกาลที่ 4 ยังได้โปรดฯ ให้สร้างพระที่นั่งประพาส
                       พิพิธภัณฑ์ขึ้นในเขตพระบรมมหาราชวัง เพื่อเก็บรักษาโบราณศิลปวัตถุที่ทรงรวบรวมเอาไว้
                                                                                                        15
                       และใน พ.ศ. 2409 รัชกาลที่ 4 ยังทรงมีพระราชนิพนธ์เรื่อง “ต านานพระพุทธชินราช พระพุทธ

                       ชินศรี และพระศรีศาสดา” โดยพระองค์ใช้ข้อมูลจาก “...ค าโบราณเล่าและเขียนจดหมายสืบๆ
                                                    16
                       มาในราชพงศาวดารเมืองเหนือ...”











                                                                5
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16