Page 13 - เอกสารคำสอนทวารวดี - ศรีวิชัย
P. 13
เรื่องน ้าเปลี่ยนสาย จดหมายลงไว้อย่างไร คนภายหลังก็จะคิดค้นหาลู่ทาง
ให้เหมือนอย่างที่ได้จดหมายลงไว้แต่ก่อน เมื่อค้นไปไม่เห็นจริงก็ไม่เชื่อ
เรื่องที่เล่านั้นก็ไม่เปนที่พบใจที่จะพิจารณาต่อไป อีกฝ่ายหนึ่งนั้นย่อม
ปรากฏรู้อยู่ด้วยกันโดยมาก ว่ามีล าน ้าเก่าล าน ้าด้วนอยู่เปนหลายแห่ง แต่ก็
ไม่มีผู้ใดพิจารณาให้เปนหลักฐานว่า ล าน ้าเดิมอย่างไร จึงเปนล าน ้าใหญ่
ด้วนเขินไปด้วยเหตุไร เมื่อครั้งใด เพราะเหตุที่ไม่ได้พิจารณาล าน ้า สอบกับ
ท้องเรื่องจดหมายโบราณ พงษาวดาร ฤาจดหมายเหตุ จึงได้สาบสูญ ลืมแล
เลือนไปเสียเปนอันมาก ได้รับสั่งเตือนพรยาโบราณบุรารุรักษ์ให้สืบสวน
19
เรื่องนี้นานมาแล้ว ...”
พระราชด ารัสของรัชกาลที่ 5 ข้างต้นนี้แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงมีความสนพระทัย
และทรงมีวิสัยทัศน์กว้างไกลยิ่ง เพราะเป็นพื้นฐานของการศึกษาสภาพภูมิศาสตร์โบราณซึ่งจะ
มีผลต่อการตั้งถิ่นฐานของชุมชน อันเป็นประเด็นที่ส าคัญประเด็นหนึ่งในการศึกษาโบราณคดีใน
ปัจจุบัน
1.2.3 “เที่ยวเมืองพระร่วง” หนังสือส ำคัญของโบรำณคดีไทย
บุคคลส าคัญท่านหนึ่งที่ได้ท าการส ารวจตามเมืองโบราณต่างๆ ในสมัยรัชกาลที่ 5 คือ
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร (รัชกาลที่ 6) ซึ่งส าเร็จ
การศึกษาจากประเทศอังกฤษ พระองค์ทรงมีพระราชนิพนธ์ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์และ
วรรณคดีหลายเรื่อง เช่น บ่อเกิดรามเกียรติ์ นารายณ์สิบปาง ขอมด าดิน ท้าวแสนปม จดหมาย
เหตุประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ ร.ศ. 128 เป็นต้น โดยพระราชนิพนธ์เรื่องที่ส าคัญที่สุดทางด้าน
ประวัติศาสตร์และโบราณคดีคือ “เที่ยวเมืองพระร่วง” เนื่องจากพระองค์ได้เสด็จไปยังเมือง
เก่าสุโขทัยและบริเวณใกล้เคียง (สวรรคโลกหรือศรีสัชนาลัย และก าแพงเพชร) เมื่อ พ.ศ. 2450
(ภาพที่ 2)
รัชกาลที่ 6 ทรงนิพนธ์ค าน าของหนังสือเที่ยวเมืองพระร่วงไว้ว่า
“... ข้าพเจ้าไม่มีความประสงค์ที่จะยกหนังสือนี้ เป็ น
ต ารับต าราอย่างใดเลย ประสงค์แต่จะตั้งโครงพอเป็นรูปขึ้นไว้ที่หนึ่ง
เพื่อผู้ที่มีความรู้และพอใจในการตรวจค้นโบราณคดีต่างๆ จะได้
ตกแต่งแต้มเติมให้เป็นรูปอันงดงามดีขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าแม้ผู้
ที่อ่านจะมีความเห็นไม่ตรงกับข้าพเจ้า ๆ จะไม่รู้สึกเสียใจเลย
แต่ตรงกันข้าม ถ้าแม้ท่านผู้ใดมีความเห็นไม่ตรงกับข้าพเจ้าในข้อใด
7