Page 63 - ทวารวดี ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล
P. 63
บทความดังกล่าวให้รายละเอียดหรือคุณลักษณะของเหรียญเงิน
ไม่มีจารึกทุกประเภท ทั้งตราสัญลักษณ์ (มงคล) ที่ปรากฏ ขนาด น ้าหนัก
และความแพร่หลาย โดยเปรียบเทียบกับเหรียญที่พบในประเทศเมียนมา
(รัฐยะไข่หรืออารกัน รัฐปยู และรัฐมอญ) ซึ่งได้ข้อสรุปว่า รัฐทวารวดีมีการ
ผลิตเหรียญเงินไม่มีจารึกขึ้นใช้ ซึ่งอาจดัดแปลงหรือท าเลียนแบบจากเหรียญ
ที่ใช้กันอยู่ในเมียนมา และน่าจะมีการใช้เหรียญเงินเป็นสื่อกลางในการ
31
ค้าขายกันระหว่างชาวปยูกับชาวทวารวดีด้วย
ดังนั้นเหรียญเงินไม่มีจารึก (บางประเภท) จึงเป็นหลักฐาน
ส าคัญที่บ่งชี้ว่า รัฐทวารวดีมีการค้าขายระหว่างประเทศ อย่างน้อย
ที่สุดก็มีการติดต่อกับรัฐโบราณในเมียนมา และน่าจะใช้ในการค้าขาย
แลกเปลี่ยนกันเองภายในชุมชนทวารวดีด้วย เพราะได้พบเหรียญเหล่านี้
ตามเมืองโบราณต่างๆ เช่น อู่ทอง นครปฐม คูบัว ศรีมโหสถ จันเสน ดงคอน
(จังหวัดชัยนาท) พรหมทิน (จังหวัดลพบุรี) เป็นต้น ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่
สนับสนุนผลการศึกษาของโรเบิร์ท เอส วิคส์ ที่กล่าวแล้วข้างต้น
แนวคิดเรื่องเศรษฐกิจการค้าในบทความเรื่อง “การค้าขายระหว่าง
ประเทศสมัยทวารวดี: มุมมองจากงานโบราณคดีเมือง
32
นครปฐม”
บทความของผู้เขียนชิ้นนี้เป็นงานที่พัฒนาต่อเนื่องมาจาก
วิทยานิพนธ์ปริญญาเอกที่เสนอต่อบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร
33
เมื่อ พ.ศ. 2553 ซึ่งใช้ข้อมูลหลักจากการขุดค้นทางโบราณคดีที่เมือง
นครปฐม โดยจากการศึกษาพบว่าในช่วงก่อนหน้าสมัยทวารวดีราวพุทธ
ศตวรรษที่ 8–11 ชุมชนโบราณที่เมืองนครปฐมคงจะมีการติดต่อสัมพันธ์กับ
ชุมชนร่วมสมัยแห่งอื่นๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศแล้ว ดังได้พบเศษ
ภาชนะดินเผาทรงชามที่มีลายขัดมันสีด าหรือเป็นเส้นมันวาวคล้ายภาชนะ
แบบพิมายด า (Phimai black pottery) และพบเศษภาชนะเขียนลายสีแดงรูป
52