Page 9 - วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2566
P. 9
4
4 5 5
พยอม และธีรดา (2562) รายงานว่า สหภาพยุโรป รุนแรงของปัญหาความต้านทานของสารป้องกันก้าจัด
2558 (5,297 ไร่) 2565 (4,633 ไร่) ประกาศกฎระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ้าแนกสาร แมลงชนิดต่างๆ ที่เกษตรกรใช้ในการป้องกันก้าจัดแมลง
ป้องกันก้าจัดศัตรูพืชที่จัดว่าเป็นสารขัดขวางการท้างาน
อยู่เป็นระยะ เพื่อที่จะสามารถระบุสารป้องกันก้าจัดแมลง
ของต่อมไร้ท่อ (Endocrine Disruptors) จ้านวน 59
รายการ จากการตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียนสารเคมี ที่ไม่มีปัญหาความต้านทานหรือมีปัญหาน้อยในพื้นที่นั้นๆ
พร้อมน้ามาใช้ในการหมุนเวียนสาร (ส้านักวิจัยพัฒนาการ
ที่อนุญาตให้ใช้ในประเทศไทยกับกรมวิชาการเกษตร พบ อารักขาพืช, 2564) ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะใช้เป็นแนวทาง
2557 (159,415 ไร่) 2564 (11,630 ไร่) ของต่อมไร้ท่อ ภายใต้หลักเกณฑ์นี้จะมีผลให้สารดังกล่าว ข้าวที่ส้าคัญด้วยสารเคมี อันจะน้าไปสู่แนวทางการลดการ
ส้าหรับผู้บริหาร เพื่อก้าหนดนโยบายในการจัดการศัตรู
จ้านวน 30 รายการ เข้าข่ายเป็นสารขัดขวางการท้างาน
ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้ใช้ในสหภาพยุโรป และมีผลต่อ
ใช้สารป้องกันก้าจัดศัตรูข้าวและใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
มากที่สุด เพื่อลดปัญหาสารพิษตกค้างที่เป็นอันตรายต่อ
การปรับลดค่าการตกค้างสูงสุดของสารพิษตกค้าง
(Maximum Residue Limits: MRLs) เหลือที่ระดับ 0.01
และผลผลิตสู่เกษตรปลอดภัยอย่างยั่งยืน
มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งจะท้าให้สารก้าจัดศัตรูพืชหลาย เกษตรกรและผู้บริโภค และยกระดับมาตรฐานการผลิตพืช
ชนิดถูกพิจารณาห้ามขึ้นทะเบียน ส่งผลกระทบต่อการ
2556 (40,811 ไร่) 2563 (8,511 ไร่) ส่งออกสินค้าเกษตรของไทยไปยังสหภาพยุโรป หากใน 1. เก็บรวบรวมเพลี้ยกระโดดสีน้้าตาล จากแปลงนา
อุปกรณ์และวิธีการ
อนาคตสหภาพยุโรปยกเลิกสารทุกรายการในบัญชีนี้ไปจน
หมดจะส่งผลกระทบต่อการก้าหนดค่า EU-MRLs และ
การผลิตสินค้าส่งออกจากไทยไปสหภาพยุโรปได้ จะเห็น
โดยใช้สวิงโฉบในแปลงนาที่มีข้าวอายุประมาณ 20-40 วัน
ว่าปัญหาดังกล่าวเกิดมานานและนับวันจะทวีความรุนแรง เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ล้าปาง และเชียงราย
ยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้เกษตรกรไม่อาจปฏิเสธการใช้สารป้องกัน ปล่อยเพลี้ยกระโดดสีน้้าตาลในกรงเลี้ยงแมลงที่ว่างเปล่า
ก้าจัดแมลงศัตรูข้าวได้ ประกอบกับเกษตรกรมีการใช้สาร
เพื่อท้าการคัดเลือกแมลงที่ไม่ถูกเบียนหรือค่อนข้าง
2555 (902,237.25 ไร่) 2562 (123,485 ไร่) ป้องกันก้าจัดเพลี้ยกระโดดสีน้้าตาลบ่อยครั้ง โดยไม่มีการ แข็งแรงโดยใช้หลอดดูดแมลง (aspirator) จ้านวน 100
ตัวต่อพื้นที่ แล้วปล่อยลงบนต้นกล้าข้าวพันธุ์อ่อนแอ กข7
หมุนเวียนกลุ่มสารอย่างถูกต้อง ท้าให้เพลี้ยกระโดดสี
น้้าตาลสร้างความต้านทานต่อสารป้องกันก้าจัดแมลงมาก
อายุประมาณ 7-10 วัน ในกรงที่เตรียมไว้ส้าหรับให้แมลง
ขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เกษตรกรต้องใช้สารในปริมาณที่สูงขึ้น วางไข่ แล้วน้ามาเลี้ยงขยายปริมาณในโรงเรือนเลี้ยงแมลง
เพื่อควบคุมประชากรเพลี้ยกระโดดสีน้้าตาลที่ต้านทาน มี 2. เลี้ยงขยายปริมาณเพลี้ยกระโดดสีน้้าตาล ที่ปล่อยให้
ผลท้าให้ต้นทุนการผลิตข้าวของเกษตรกรสูงขึ้นอย่าง
2554 (550 ไร่) 2561 (12,390 ไร่) หลีกเลี่ยงไม่ได้ การศึกษาความต้านทานของประชากร วางไข่ในต้นกล้าข้าวที่เตรียมไว้ น้ามาเลี้ยงขยายในโรง
เลี้ยงแมลงจนกระทั่งตัวอ่อนรุ่นที่ 1 ฟักออกมาจึงน้าไป
เพลี้ยกระโดดสีน้้าตาลแต่ละพื้นที่ต่อสารป้องกันก้าจัด
แมลงที่นิยมใช้ในพื้นที่นั้น นอกจากจะเป็นการสร้าง
เคาะลงบนต้นกล้าข้าวพันธุ์อ่อนแอ กข7 อายุ 7-10 วัน ซึ่ง
ความรู้ความเข้าใจในการเลือกใช้สารที่มีระดับความเป็น
พิษสอดคล้องกับระดับความต้านทานของประชากรเพลี้ย เตรียมไว้ส้าหรับใช้เป็นอาหารของเพลี้ยกระโดดสีน้้าตาล
โดยจะเปลี่ยนอาหาร 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ท้าเช่นนี้จนกระทั่ง
กระโดดสีน้้าตาลในพื้นที่นั้นๆ แล้ว (จอมสุรางค์ และคณะ, ได้จ้านวนตัวเต็มวัยเพลี้ยกระโดดสีน้้าตาลจ้านวนมากพอ
2552 1.30 ล้านไร่ 2553 2.38 ล้านไร่ 2560 (9,035 ไร่) รูปที่ 1 พื้นที่การระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้้าตาล ระหว่าง ปี พ.ศ. 2541-2565 2551) ยังใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาความ ส้าหรับใช้ในการทดสอบหาระดับความต้านทานจะใช้
ต้านทานต่อสารป้องกันก้าจัดแมลง โดยใช้หลักการ
เพลี้ยกระโดดสีน้้าตาลตั้งแต่ชั่วอายุที่ 2 แต่ไม่เกินชั่วอายุที่
หมุนเวียนการใช้สารป้องกันก้าจัดแมลงชนิดต่างๆ ที่อยู่
5 (Heong et al., 2011)
Roush, 1989; Roush and Daly, 1990; ส้านักวิจัย
ต่างกลุ่มกันในแต่ละรุ่นของแมลง (Deuter, 1989; 3. เตรียมสารเคมีป้องกันก้าจัดเพลี้ยกระโดดสีน้้าตาลที่ใช้
พัฒนาการอารักขาพืช, 2564) แผนการหมุนเวียนการใช้
ในการทดสอบ
2541 (3.34 ล้านไร่) 2542 (1.64 ล้านไร่) 2559 (73,116 ไร่) ที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร (2565) ความต้านทานต่อสารป้องกันก้าจัดแมลงชนิดต่างๆ ที่ เกษตรกรนิยมใช้ในพื้นที่ภาคเหนือ ชนิด Technical
สารป้องกันก้าจัดแมลงชนิดต่างๆ จะได้ผลจะต้องใช้ข้อมูล
3.1 เตรียมสารเคมีป้องกันก้าจัดแมลงที่
เกษตรกรใช้ที่เป็นปัจจุบัน ดังนั้นต้องทราบสถานการณ์
grade ความเข้มข้น 95 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ได้แก่ สาร
imidacloprid, dinotefuran และ ethiprole สารละลาย
ความรุนแรง ความผันแปรของความต้านทานในศัตรูพืช
ต่อสารป้องกันก้าจัดแมลงแต่ละชนิด และพยากรณ์ความ ความเข้มข้นละ 5-6 ระดับเริ่มต้นจากความเข้มข้น
วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2566 วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2566
วารสารการเกษตรราชภัฏ ปที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2566
วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2566