Page 105 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 105

จำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา
                มาตรา ๕๖ ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ พักใช้ใบอนุญาตขับขี่

                (ที่ถูก ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ฉบับที่ ๖๐๐๐๗๗๐๑) มีกำหนด ๖ เดือน
                     โจทก์อุทธรณ์
                     ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษาแก้เป็นว่า สำหรับความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุ
                ให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓ (๒),
                ๑๖๐ ตรี วรรคสาม ให้จำคุก ๒ ปี และปรับ ๔๐,๐๐๐ บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็น
                ประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ กึ่งหนึ่ง

                คงจำคุก ๑ ปี และปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท ยกคำพิพากษา (ที่ถูกคำพิพากษาศาลชั้นต้น) ที่ให้พักใช้
                ใบอนุญาตขับขี่ (ที่ถูกใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ฉบับที่ ๖๐๐๐๗๗๐๑) มีกำหนด ๖ เดือน
                นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
                     โจทก์ฎีกา
                     ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า

                การที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้พักใช้ใบอนุญาตขับรถยนต์
                ส่วนบุคคลชั่วคราว ฉบับที่ ๖๐๐๐๗๗๐๑ ของจำเลย มีกำหนด ๖ เดือน ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
                โดยโจทก์ฎีกาว่า พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๖๐ ตรี วรรคสาม กำหนดให้
                ศาลเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยโดยกฎหมายดังกล่าวมิได้กำหนดให้พักใช้หรือเพิกถอน
                เฉพาะใบอนุญาตขับขี่ชนิดเดียวกันกับรถที่จำเลยขับในขณะเกิดเหตุ ทั้งนี้กฎหมายมีวัตถุประสงค์
                เพื่อป้องกันมิให้จำเลยมีโอกาสก่อให้เกิดอันตรายที่กระทบต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลอื่น

                ที่ร่วมกันใช้รถและทางสาธารณะเดียวกันกับจำเลยไม่ว่าจะเป็นการขับรถประเภทใดก็ตาม ศาลฎีกา
                โดยมติที่ประชุมใหญ่  เห็นว่า  การพักใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ตาม
                พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ นี้ แม้มิใช่โทษที่ใช้สำหรับลงโทษผู้กระทำความผิด
                ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๘ หรือวิธีการเพื่อความปลอดภัยตามมาตรา ๓๙ ก็ตาม แต่ก็
                มีบทบังคับเช่นเดียวกับวิธีการเพื่อความปลอดภัยด้วยเจตนาคุ้มครองประชาชนหรือสังคม

                เพื่อป้องกันมิให้ผู้ถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ไปขับขี่รถยนต์หรือ
                รถจักรยานยนต์ในกรณีที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นอีกตามความมุ่งหมายและเจตนารมณ์
                ของกฎหมายเพื่อคุ้มครองประชาชนทั่วไปมิให้ได้รับอันตรายที่อาจเกิดจากการกระทำของ
                ผู้กระทำความผิด การพักใช้ใบอนุญาตขับขี่จึงเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยที่มีความสำคัญเพื่อ
                ป้องปรามมิให้ผู้ขับขี่กลับไปกระทำความผิดในช่วงระยะเวลาที่ถูกพักใช้ใบอนุญาต  ทั้งตาม
                พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔ (๑๕) ให้คำนิยามคำว่า รถ หมายถึง

                ยานพาหนะทางบกทุกชนิด เว้นแต่รถไฟและรถราง ดังนั้นรถจักรยานยนต์และรถยนต์จึงอยู่ใน
                ความหมายของคำว่า รถ ด้วย ซึ่งการพักใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่จะอยู่ใน
                ลักษณะ ๑๙ บทกำหนดโทษดังเช่นมาตรา ๑๕๗/๑, ๑๖๐ ทวิ, ๑๖๐ ตรี โดยมิได้กล่าวถึงการขับขี่
                ยานพาหนะชนิดหนึ่งชนิดใดแล้วให้ศาลมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะที่เกี่ยวข้องหรือ

                ชนิดนั้นไว้โดยเฉพาะ แต่เป็นการกล่าวถึงการขับขี่ยานพาหนะที่มีลักษณะเป็นการกระทำความผิด



                                                             อัยการนิเทศ เล่มที่ ๘๖ พ.ศ. ๒๕๖๔  95
   100   101   102   103   104   105   106   107   108   109   110