Page 106 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 106
แล้วให้ศาลมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่เพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดไปยุ่งเกี่ยว
ควบคุม หรือขับขี่ยานพาหนะทั้งหมดที่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่ตามพระราชบัญญัติการจราจรทางบก
ศาลจึงต้องสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทุกกรณี ไม่ว่าใบอนุญาตขับขี่นั้น
จะเกี่ยวข้องกับยานพาหนะที่ผู้กระทำความผิดขับขี่ในขณะกระทำความผิดหรือไม่ก็ตาม แม้จำเลย
มีใบอนุญาตขับขี่รถคนละประเภทกันกับรถที่จำเลยขับในขณะกระทำความผิด ศาลก็มีอำนาจสั่ง
ให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราวของจำเลยได้
ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์
ส่วนบุคคลชั่วคราวมีกำหนด ๖ เดือน นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
เมื่อวินิจฉัยมาดังนี้แล้ว เห็นควรวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ในปัญหาที่ว่า ศาลชั้นต้นพิพากษา
ให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราวของจำเลยกำหนด ๖ เดือน ชอบด้วยกฎหมาย
หรือไม่ ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค ๒ ยังไม่ได้วินิจฉัย เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแล้วเห็นควรวินิจฉัยไปเสียทีเดียว
โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ วินิจฉัยอีก เห็นว่า พระราชบัญญัติจราจรทางบก
พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๖๐ ตรี วรรคสาม บัญญัติว่า ให้ศาลมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้น
มีกำหนดไม่น้อยกว่าสองปี หรือ เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ การที่ศาลชั้นต้นสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่
รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราวของจำเลยมีกำหนด ๖ เดือนนั้น ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว
ศาลฎีกาเห็นควรแก้ไขให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราวของจำเลย
ฉบับที่ ๖๐๐๐๗๗๐๑ มีกำหนด ๒ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๒.
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายสารสนเทศ
สำนักงานวิชาการ
96 คำพิพากษาศาลฎีกา