Page 35 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 35
พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร
คำชี้ขาดความเห็นแย้งอุทธรณ์ที่ ๒๗๓/๒๕๖๓
ป.อ. พราก (มาตรา ๓๑๗)
ขณะเกิดเหตุเด็กอยู่ในความปกครองดูแลของบิดา แม้เด็กจะเดินทางไปบ้านของจำเลยเอง
โดยจำเลยไม่ได้ชักชวนหรือนัดหมายให้ไปพบ ก็ถือว่าเด็กยังอยู่ในอำนาจปกครองของ
บิดาตลอดเวลา การที่จำเลยขัดขวางไว้ไม่ยอมให้เด็กออกจากห้องเพื่อข่มขืนกระทำชำเรา
จึงเป็นการแยกเด็กออกไปจากอำนาจปกครองของบิดา และทำให้อำนาจปกครองของบิดา
ถูกรบกวนหรือถูกกระทบกระเทือน โดยบิดาไม่รู้เห็นยินยอมด้วย เป็นการล่วงละเมิดอำนาจ
ปกครองของบิดา การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี
ไปเพื่อการอนาจาร
______________________________
คดีนี้ พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เวลากลางวัน จำเลย
โดยปราศจากเหตุอันสมควรพรากเด็กหญิง ว. ผู้เสียหายที่ ๒ อายุ ๑๒ ปีเศษ เกิดวันที่
๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ ซึ่งเป็นเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากนาย ก. ผู้เสียหายที่ ๑ ซึ่งเป็นบิดา
ผู้ปกครองดูแลของผู้เสียหายที่ ๒ เพื่อการอนาจาร จำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายที่ ๒ ซึ่งเป็น
เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนจนสำเร็จความใคร่โดยผู้เสียหายที่ ๒ ไม่ยินยอมและ
อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑, ๒๗๗,
๓๑๗
ระหว่างพิจารณา เด็กหญิง ว. ผู้เสียหายที่ ๒ โดยนางสาว พ. ผู้แทนเฉพาะคดี ยื่นคำร้อง
ขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลอนุญาต
ศาลจังหวัดพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๗
วรรคสาม (เดิม) จำคุก ๗ ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้าง
มีเหตุบรรเทาโทษ เห็นสมควรลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘
คงจำคุก ๔ ปี ๘ เดือน กับให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทน ๗๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย
อัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไปจนกว่า
จะชำระเสร็จแก่โจทก์ร่วม ให้ยกฟ้องในความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการ
อนาจาร ค่าฤชาธรรมเนียมในคดีส่วนแพ่งให้เป็นพับ
คดีมีปัญหาให้อัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาดอุทธรณ์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิด
ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดาโดยปราศจากเหตุอันสมควรเพื่อการอนาจารหรือไม่
อัยการนิเทศ เล่มที่ ๘๖ พ.ศ. ๒๕๖๔ 2