Page 37 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 37

พฤติการณ์ไม่สุจริต ฟังว่าบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์

                คำชี้ขาดความเห็นแย้งที่ ๔๔๓/๒๕๖๓

                ป.อ. ทำให้เสียทรัพย์, บุกรุก (มาตรา ๓๕๘, ๓๖๒)

                

   ผู้ต้องหากับผู้กล่าวหาแบ่งทำสัญญาเช่าที่ดินกันเองเป็น ๔ ฉบับ มีกำหนดระยะเวลาเช่า

                ฉบับละ ๓ ปี เมื่อไม่มีการจดทะเบียนการเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงมีผลบังคับใช้ได้เพียง ๓ ปี
                ตามสัญญาฉบับแรก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๓๘ เมื่อข้อความ
                ในสัญญาเช่าระบุว่าทั้งสองฝ่ายตกลงเช่าที่ดินแปลงเกิดเหตุ เนื้อที่ ๓ ไร่ จากจำนวนทั้งหมด
                ๑๒ ไร่เศษ และผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ให้เช่าเป็นจำนวน ๓ ไร่
                แสดงชัดแจ้งถึงเจตนาของคู่กรณีที่ตกลงให้ใช้พื้นที่ที่เช่าเพียง ๓ ไร่ ตามที่ตกลงกันเท่านั้น
                ทั้งการที่ผู้สำรวจพื้นที่เพื่อจัดทำแผนที่แสดงขอบเขตที่จะก่อสร้างอาคารลงในที่เช่า โดยมี
                ผู้กล่าวหาและผู้ต้องหาร่วมกันชี้แนวเขตและมีการกำหนดใช้ต้นไม้ แนวเนินดิน เป็นเครื่องหมาย
                ทางธรรมชาติ ระบุขอบเขตพื้นที่ในการออกแบบอาคารให้ตรงกับเทศบัญญัติและข้อกำหนด
                ในการขออนุญาตก่อสร้างตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว มีพื้นที่ก่อสร้างประมาณ ๒-๒-๐ ไร่

                ส่วนต้นยูคาลิปตัส ๔ ต้น เป็นเครื่องหมายทางธรรมชาติที่กำหนดขอบเขตการใช้ประโยชน์
                ในที่ดิน ซึ่งผู้สำรวจพื้นที่ได้รับแจ้งจากผู้กล่าวหาว่าไม่ให้ตัดต้นไม้ทุกต้นในที่ให้เช่าออกโดยเด็ดขาด
                ให้ตัดแต่งหรือปลูกเพิ่มได้ ต่อมาเมื่อผู้กล่าวหาได้รับแจ้งจากผู้ดูแลพื้นที่ว่าผู้ต้องหาใช้พื้นที่
                นอกบริเวณที่ตกลงให้เช่า จึงให้เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินทำการรังวัดตรวจสอบ พบว่าผู้ต้องหา
                ปลูกสร้างอาคารและที่จอดรถในเนื้อที่ ๓-๓-๖๙ ไร่ เกินกว่าพื้นที่ตกลงให้เช่า ๐-๓-๖๙ ไร่
                และขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล วางท่อน้ำ ท่อระบายน้ำทิ้งสิ่งปฏิกูล และขุดดิน ฝังสายไฟฟ้าใต้ดิน
                ลงในที่ดินอีก ๐-๓-๖๑ ไร่ รวมใช้พื้นที่เกินจากสัญญาเช่า ๑-๓-๓๐ ไร่ โดยผู้กล่าวหาไม่ยินยอม

                จึงเป็นการบุกรุกที่ดินของผู้กล่าวหา ทั้งยังได้ความว่าหนังสือยินยอมให้ก่อสร้างอาคารในที่ดิน
                เต็มโฉนดที่ผู้ต้องหาอ้างเป็นหลักฐานในการใช้ที่ดินของผู้กล่าวหาเกินกว่าที่ตกลงเช่า
                เป็นเอกสารประกอบการขออนุญาตก่อสร้างอาคารของผู้ต้องหาบนที่ดินของผู้กล่าวหาที่จัดทำ
                ขึ้นต่อหน้าเจ้าหน้าที่ของเทศบาลโดยขณะยื่นเอกสารดังกล่าวยังไม่มีการกรอกข้อความใดๆ
                ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลักลอบนำเอกสารส่วนตัวของผู้กล่าวหาไปรับรองสำเนายื่นประกอบการ
                ขออนุญาตต่อเติมอาคารต่อเทศบาลโดยผู้กล่าวหาไม่ยินยอม เอกสารประกอบการขออนุญาต
                ดังกล่าวจึงไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ กฎกระทรวงฉบับที่ ๑๐
                พ.ศ. ๒๕๒๘ ข้อ ๑ (๑) เทศบาลจึงไม่พิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารหลังที่ ๒ ให้แก่
                ผู้ต้องหา พฤติการณ์แห่งคดีจึงฟังได้ว่าผู้ต้องหาใช้พื้นที่กระทำการต่างๆ นอกพื้นที่ที่เช่า

                และเกินจากสัญญาเช่าเป็นเนื้อที่รวม ๑-๓-๓๐ ไร่ เป็นการบุกรุกที่ดินของผู้กล่าวหา และทำให้
                เสียทรัพย์ต้นยูคาลิปตัสที่อยู่ในที่ดินที่ถูกตัดโค่นไปในภายหลังโดยผู้กล่าวหาไม่อนุญาต
                คดีมีพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าผู้ต้องหากระทำความผิดฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์
                                       ______________________________






                                                             อัยการนิเทศ เล่มที่ ๘๖ พ.ศ. ๒๕๖๔  2
   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42