Page 57 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 57

จำเลยอุทธรณ์
                     ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยสำหรับข้อหามีเครื่องกระสุนปืน

                ขนาด ๙ มม. ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
                     จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกา
                ในปัญหาข้อเท็จจริง
                     ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า ในวันเวลาและ
                สถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยพร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลาง
                ตามบัญชีของกลาง ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีว่า จำเลยกระทำความผิดตามคำพิพากษา

                ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ หรือไม่ จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่บรรยายฟ้องว่า กระสุนปืนเล็กกล ขนาด .๒๒๓
                (๕.๕๖ มม.) เป็นชนิดเจาะเกราะหรือกระสุนเพลิง ชนิดที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้
                ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๒) ข้อ ๓ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
                มาตรา ๕๕, ๗๘ เห็นว่า ตามฟ้องข้อ ๑) โจทก์บรรยายเพียงว่า เครื่องกระสุนปืนเล็กกลของกลาง
                เป็นเครื่องกระสุนปืนสามารถใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตและวัตถุได้ และเป็นเครื่องกระสุนปืน

                ที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๒) ข้อ ๓
                ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙o เท่านั้น โดยไม่บรรยายฟ้องให้เห็นว่า
                เครื่องกระสุนปืนดังกล่าวเป็นชนิดเจาะเกราะหรือชนิดกระสุนเพลิง  กรณีจึงไม่อาจฟังว่า
                เครื่องกระสุนปืนของกลางเป็นชนิดที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ตามกฎกระทรวงดังกล่าว
                ดังนั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออก
                ใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด

                ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๕๕, ๗๘ ตามฟ้อง แต่อย่างไรก็ตาม
                โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครอง
                ย่อมรวมถึงการมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนด้วย
                ถือได้ว่าความผิดตามที่โจทก์ฟ้องนั้น รวมการกระทำหลายอย่าง แต่ละอย่างอาจเป็นความผิดได้
                ในตัวเอง จึงไม่ใช่ความผิดที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ แม้พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน

                วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ บัญญัติความผิดทั้งสองฐานไว้ใน
                คนละมาตรา แต่เมื่อข้อเท็จจริงตามที่โจทก์บรรยายฟ้องฟังได้ว่า จำเลยมีเครื่องกระสุนปืนไว้
                ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ศาลย่อมลงโทษจำเลยในความผิดฐานมีเครื่องกระสุนไว้
                ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตซึ่งมีบทลงโทษเบากว่าได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
                ความอาญา มาตรา ๑๙๒ วรรคท้าย และไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอตามประมวลกฎหมายวิธี
                พิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๒ วรรคหนึ่ง ปัญหานี้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา แต่เป็นปัญหา

                ข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย  ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง ตามประมวล
                กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๕ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๒๕ ฎีกาข้อนี้
                ของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน
                     ส่วนที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษจำคุกนั้น เห็นว่า จำเลยมีอาวุธปืนที่ได้รับใบอนุญาตจาก

                นายทะเบียนให้มีและใช้อยู่แล้วถึง ๒ กระบอก ยังมีอาวุธปืนที่ไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน



                                                             อัยการนิเทศ เล่มที่ ๘๖ พ.ศ. ๒๕๖๔  47
   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62