Page 60 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 60

จำเลยทั้งสองฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
                ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า ในวันเวลาและสถานที่
          เกิดเหตุตามฟ้อง เจ้าพนักงานจับกุมนาย ม. และนางสาว ห. พร้อมยึดได้เมทแอมเฟตามีน ชนิดวัตถุ

          เกล็ดสีขาว ๓ ซอง น้ำหนักสุทธิ ๒.๓๕๑ กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ ๒.๒๖๐ กรัม และ ๑ ซอง
          น้ำหนักสุทธิ ๐.๘๙๙ กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ ๐.๘๔๗ กรัม ตามลำดับ กล่าวหาว่าบุคคลทั้งสอง
          มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย แล้วสืบสวนขยายผลถึงเครือข่ายที่ร่วมขบวนการ
          ค้ายาเสพติด นาย ม. ให้การว่า นาง ส. สั่งซื้อเมทแอมเฟตามีนมาจากนาง ช. นำมาให้นาย ม.
          และนางสาว ห. จำหน่าย เมื่อนาย ม. และนางสาว ห. จำหน่ายได้เงินมาแล้วจะโอนเงินเข้าบัญชี
          เงินฝากธนาคารตามที่นาง ส. ให้หมายเลขบัญชีไว้ นาย ม. เคยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ท. จำกัด
          (มหาชน) เลขที่ ๔๐๒ ของจำเลยที่ ๑ จำนวน ๒ ครั้ง และบัญชีธนาคาร ท. จำกัด (มหาชน)
          เลขที่ ๘๙๗ ของจำเลยที่ ๒ ประมาณ ๓ ถึง ๔ ครั้ง แต่ละครั้งเป็นเงินประมาณ ๔๐,๐๐๐ บาท
          ถึง ๕๐,๐๐๐ บาท นางสาว ห. ให้การว่า นางสาว ห. และนาย ม. รับเมทแอมเฟตามีนจากนาง ส.

          มาจำหน่ายโดย นาง ส. เคยสั่งให้นางสาว ห. โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ก. จำกัด (มหาชน)
          เลขที่ ๙๘๑ ของนาง ช. ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยทั้งสองได้ จำเลยที่ ๑ เปิดบัญชี
          เงินฝากธนาคาร ท. จำกัด (มหาชน) เลขที่ ๔๐๒ ส่วนจำเลยที่ ๒ เปิดบัญชีธนาคาร ท. จำกัด
          (มหาชน) เลขที่ ๘๙๗ แล้วมอบสมุดบัญชีเงินฝากพร้อมบัตรถอนเงินสดให้นาง ช. ไว้ คงมีปัญหา
          ที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองว่า จำเลยทั้งสองสนับสนุนหรือช่วยเหลือนางสาว ห. และ
          นาย ม. ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง
          เพื่อจำหน่ายโดยเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าวเพื่อรับโอนเงินจากการซื้อขายยาเสพติด

          ของนางสาว ห. และนาย ม. ตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ เห็นว่า เมทแอมเฟตามีนชนิดวัตถุเกล็ดสีขาว
          ๑ ซอง น้ำหนักสุทธิ ๐.๘๙๙ กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ ๐.๘๔๗ กรัม ที่นางสาว ห. มีไว้ในครอบครอง
          เพื่อจำหน่ายนั้น ตามทางนำสืบของโจทก์ไม่ปรากฏว่ามีการใช้บัญชีเงินฝากของจำเลยทั้งสองในการ
          รับโอนเงินจากการซื้อขายเมทแอมเฟตามีนของนางสาว ห. แต่ประการใด ส่วนเมทแอมเฟตามีน
          ชนิดวัตถุเกล็ดสีขาว ๓ ซอง น้ำหนักสุทธิ ๒.๓๕๑ กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ ๒.๒๖๐ กรัม
          นาย ม. มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้น แม้นาย ม. จะเบิกความเป็นพยานโจทก์ยืนยันว่านาย ม.
          เคยโอนเงินจากการซื้อขายเมทแอมเฟตามีนเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยทั้งสอง โดยมีพันตำรวจโท อ.
          และพันตำรวจโท บ. เจ้าพนักงานตำรวจผู้สืบสวนคดีนี้เบิกความสนับสนุนว่าหลังจากจับกุมนาย ม.
          และนางสาว ห. ได้มีการสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการและเครือข่ายค้ายาเสพติด

          จนได้ข้อมูลว่า นาง ช. เป็นภรรยาของนาย จ. จำเลยที่ ๑ เป็นหลานเขยของนาย จ. ส่วนจำเลยที่ ๒
          เป็นบุตรของนาย จ. นาย จ. และนาง ช. ร่วมกับเครือญาตินำเมทแอมเฟตามีนมาให้นาง ส. นาย ม.
          และนางสาว ห. ไปจำหน่าย โดยนาย จ. จะสั่งการทางโทรศัพท์ติดต่อประสานงานกับผู้ร่วม
          ขบวนการ เมื่อจำหน่ายได้เงินแล้วให้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของนาง ช. และจำเลยทั้งสองก็ตาม
          แต่การที่จะถือว่าเป็นผู้สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตามพระราชบัญญัติ
          มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๖ วรรคหนึ่ง (๑) นั้น
          ผู้กระทำต้องมีเจตนาประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลในการสนับสนุนหรือช่วยเหลือด้วย

          การกระทำแม้มีผลเป็นการช่วยเหลือหรือสนับสนุนผู้อื่นในการกระทำความผิด  แต่ผู้กระทำ



              50    คำพิพากษาศาลฎีกา
   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65