Page 59 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 59

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๕๒๐/๒๕๖๓

                พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ (มาตรา ๖)


                





 การที่จะถือว่าเป็นผู้สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
                ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

                พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๖ วรรคหนึ่ง (๑) นั้น ผู้กระทำต้องมีเจตนาประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผล
                ในการสนับสนุนหรือช่วยเหลือด้วย การกระทำแม้มีผลเป็นการช่วยเหลือหรือสนับสนุนผู้อื่น
                ในการกระทำความผิด แต่ผู้กระทำไม่ประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลเช่นนั้น ก็จะถือว่า
                เป็นผู้ช่วยเหลือหรือสนับสนุนตามบทกฎหมายดังกล่าวหาได้ไม่ ดังนั้น ลำพังแต่เพียงการ
                ที่จำเลยทั้งสองได้เปิดบัญชีเงินฝากและมอบบัตรเบิกถอนเงินสดของตนให้แก่ผู้อื่นซึ่งเป็น
                ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดโดยยังไม่ปรากฏชัดว่าจำเลยทั้งสองรู้ว่าผู้อื่นนั้นเป็น
                ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และเป็นการเปิดบัญชีเงินฝากของตนเพื่อรับโอนเงิน
                จากการซื้อขายยาเสพติด กรณีจึงต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยทั้งสอง
                                      ______________________________


                
             พนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต                     โจทก์


                ระหวาง    {
                              นาย พ. ที่ ๑

                              นาย บ. ที่ ๒                                   จำเลย


                     โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒
                มาตรา ๔, ๗, ๘, ๑๕, ๖๖, ๑๐๐/๑ พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิด
                เกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๓, ๖, ๘, ๑๔  ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๙๑
                     จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
                     ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
                     โจทก์อุทธรณ์

                     ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดพิพากษากลับว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติ
                ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคสาม (๒) (ที่แก้ไขใหม่), ๖๖ วรรคสอง ประกอบ
                ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๘๓, ๘๖ พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิด
                เกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๖ วรรคหนึ่ง (๑) จำคุกคนละ ๖ ปี และปรับคนละ

                ๔๐๐,๐๐๐ บาท กระทงหนึ่ง และจำคุกคนละ ๕ ปี และปรับคนละ ๔๐๐,๐๐๐ บาท อีกกระทงหนึ่ง
                รวม ๒ กระทง จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ ๑๑ ปี และปรับคนละ ๘๐๐,๐๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับ
                ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ หากต้องกักขังแทนค่าปรับให้กักขังเกิน ๑ ปี
                แต่ไม่เกิน ๒ ปี



                                                             อัยการนิเทศ เล่มที่ ๘๖ พ.ศ. ๒๕๖๔  49
   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64