Page 64 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 64
นาย ร. ที่ ๑ โจทก์
นาง ย. ที่ ๒
ระหว่าง {
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ ๑
สำนักงานอัยการสูงสุด ที่ ๒
สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓ จำเลย
โจทก์ทั้งสองฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๓๕ จนถึงวันฟ้อง (ฟ้องวันที่
๑๒ กันยายน ๒๕๕๔) จำเลยทั้งสามโดยเจ้าหน้าที่ในสังกัดของจำเลยทั้งสามร่วมกับประชาชนที่ตน
มีอำนาจสั่งการหรือบังคับให้กระทำการ ร่วมกันจงใจหรือประมาทเลินเล่อกระทำผิดต่อโจทก์ทั้งสอง
และครอบครัวโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ
ทรัพย์สิน หรือสิทธิของโจทก์ทั้งสอง ทั้งร่วมกันไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง
เป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติคุณ ทางทำมาหาได้และทางเจริญของโจทก์ทั้งสอง ขอให้จำเลย
ทั้งสามร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ทั้งสองเป็นเงิน ๓,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท โจทก์ทั้งสอง
มีหนังสือบอกกล่าวไปยังจำเลยทั้งสาม แต่จำเลยทั้งสามเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกัน
ชำระเงิน ๓,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป
จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นตามที่คู่ความมิได้
โต้แย้งกันในชั้นนี้ว่า เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๓๖ พลตำรวจตรี ล. ผู้บังคับการกองปราบปราม
เสนอรายงานการสืบสวนต่ออธิบดีกรมตำรวจว่า นาย ส. และนาย ณ. ว่าจ้างนาย ท. และนาย ร.
ร่วมกันฆ่านาย ป. ประธานศาลฎีกาในขณะนั้น โดยให้ค่าจ้างเป็นเงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท และ
จากการสืบสวน พลตำรวจตรี ล. ก็ได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่นาย ส. นาย ณ. นาย บ.
และนาย อ. ส่วนโจทก์ที่ ๑ เข้ามอบตัวและต่อมาพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องนาย ส.
นาย ณ. นาย อ. และโจทก์ที่ ๑ กับให้กันนาย อ. เป็นพยาน พนักงานสอบสวนส่งสำนวนการสอบสวน
ไปยังพนักงานอัยการเมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๓๖ ต่อมาวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๓๖ พนักงานอัยการ
มีคำสั่งฟ้องนาย ส. นาย ณ. นาย อ. และโจทก์ที่ ๑ ตามความเห็นและคำสั่งเอกสารหมาย จ.๑๙
54 คำพิพากษาศาลฎีกา