Page 66 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 66
เกี่ยวกับจำเลยที่ ๑ โจทก์ทั้งสองกล่าวในคำฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ต้องรับผิดในการกระทำละเมิดของ
เจ้าพนักงานตำรวจในสังกัดของจำเลยที่ ๑ รวม ๒ กรณี กล่าวคือ กรณีแรก โจทก์ทั้งสองอ้างว่า
เจ้าพนักงานตำรวจในสังกัดของจำเลยที่ ๑ สืบสวน สอบสวนและมีความเห็นสั่งฟ้องโจทก์ที่ ๑
ในความผิดฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ด้วยการใช้ จ้างวาน ยุยงส่งเสริม และด้วยวิธีอื่นใดโดยสร้างเรื่องขึ้นกล่าวหาโจทก์ที่ ๑ ว่า ร่วมกับ
พวกจ้างวานฆ่านาย ป. ประธานศาลฎีกาในขณะนั้นโดยไม่มีมูลความจริง การร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ
โดยพลตำรวจตรี ล. เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๓๖ การกันนาย บ. เป็นพยาน เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๓๖
การแจ้งข้อหาให้โจทก์ที่ ๑ รับทราบ เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๓๖ และการทำความเห็นสั่งฟ้อง
โจทก์ที่ ๑ ตามสำนวนการสอบสวนที่ส่งไปยังพนักงานอัยการเมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๓๖
ล้วนเป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ทั้งสอง ดังนี้
เหตุละเมิดตามคำฟ้องในกรณีแรกนี้ ต้องถือว่าเกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๓๖ อันเป็นวันที่
โจทก์ที่ ๑ เข้ามอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหา เพราะเป็นวันที่โจทก์ที่ ๑ ตกอยู่ในฐานะเป็น
ผู้ต้องหาและอาจถูกจำกัดสิทธิบางประการ เช่น ต้องถูกควบคุมตัว หากไม่ได้รับอนุญาตให้
ปล่อยชั่วคราว ส่วนเหตุละเมิดตามคำฟ้องในกรณีที่ ๒ โจทก์ทั้งสองอ้างว่า ระหว่างการพิจารณา
ของศาลอาญากรุงเทพใต้ เจ้าพนักงานตำรวจในสังกัดของจำเลยที่ ๑ ไปยื่นคำร้องขอให้ศาลอาญา
กรุงเทพใต้ ถอนประกันโจทก์ที่ ๑ โดยอ้างว่าโจทก์ที่ ๑ ข่มขู่พยาน จ้างให้พยานกลับคำ หรือไม่ให้
ไปเบิกความต่อศาล ซึ่งไม่เป็นความจริง เป็นเหตุให้ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งถอนประกัน
โจทก์ที่ ๑ และโจทก์ที่ ๑ ต้องถูกคุมขังเป็นเวลา ๔ เดือนเศษก่อนได้รับการปล่อยชั่วคราวอีกครั้ง
เหตุละเมิดตามคำฟ้องในกรณีนี้ ต้องถือว่าเกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๓๖ อันเป็นวันที่
ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งถอนประกันโจทก์ที่ ๑ สำหรับคดีในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ ๒ โจทก์
ทั้งสองกล่าวในคำฟ้องว่า จำเลยที่ ๒ ต้องรับผิดในการกระทำละเมิดของพนักงานอัยการในสังกัด
ของจำเลยที่ ๒ เนื่องจากเมื่อพนักงานอัยการเห็นสำนวนการสอบสวน ควรต้องทราบว่ามีการสร้าง
เรื่องขึ้นกล่าวหาโจทก์ที่ ๑ โดยไม่มีมูลความผิดอาญา และพนักงานอัยการยื่นคำฟ้องต่อศาลอาญา
กรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๓๖ ทั้งที่การสอบสวนเพิ่มเติมตามคำสั่งพนักงานอัยการเอง
ยังไม่แล้วเสร็จ เหตุละเมิดตามคำฟ้องกรณีนี้ ต้องถือว่าเกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๓๖
อันเป็นวันที่พนักงานอัยการในสังกัดของจำเลยที่ ๒ ยื่นคำฟ้องต่อศาล เพราะเป็นวันที่โจทก์ที่ ๑
ตกอยู่ในฐานะเป็นจำเลย ดังนี้ เหตุละเมิดตามคำฟ้องที่เกิดจากการกระทำของเจ้าพนักงานตำรวจ
ในสังกัดของจำเลยที่ ๑ ทั้งสองกรณี และเหตุละเมิดตามคำฟ้องที่เกิดจากการกระทำของ
พนักงานอัยการในสังกัดของจำเลยที่ ๒ จึงเกิดขึ้นก่อนวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๓๙ อันเป็นวันที่
พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ มีผลใช้บังคับทั้งสิ้น และพระราชบัญญัติ
ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ มิได้มีบทบัญญัติให้ใช้บังคับแก่คดีละเมิดที่เกิดขึ้น
ก่อนวันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวมีผลใช้บังคับ แม้ว่าโจทก์ทั้งสองฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๔
56 คำพิพากษาศาลฎีกา