Page 61 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 61

ไม่ประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลเช่นนั้น  ก็จะถือว่าเป็นผู้ช่วยเหลือหรือสนับสนุนตาม
                บทกฎหมายดังกล่าวหาได้ไม่ โจทก์จึงต้องนำสืบให้ปรากฏข้อเท็จจริงด้วยว่า จำเลยทั้งสองมีเจตนา
                ช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แต่โจทก์มิได้นำสืบให้เห็นเลยว่า จำเลยทั้งสอง

                รู้ว่านาง ช. นาย ม. และนางสาว ห. เป็นผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และเป็นเครือข่าย
                ผู้ค้ายาเสพติดด้วยกัน จึงเปิดบัญชีเงินฝากของตนเพื่อรับโอนเงินจากการซื้อขายยาเสพติดในกลุ่ม
                ผู้ค้ายาเสพติดดังกล่าว แม้การที่จำเลยทั้งสองมอบบัตรเบิกถอนเงินสดให้นาง ช. ไว้ใช้ จะเป็นการ
                ปิดบังซ่อนเร้นตัวบุคคลผู้ใช้บัญชีเงินฝากที่แท้จริง แต่เมื่อข้อเท็จจริงตามทางนำสืบของโจทก์
                ยังไม่ปรากฏชัดว่า จำเลยทั้งสองรู้ว่านาง ช. นาย ม. และนางสาว ห. เป็นผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ
                ยาเสพติด  อีกทั้งนาง  ช.  อาจใช้บัญชีเงินฝากของจำเลยทั้งสองในการทำธุรกรรมอย่างอื่น
                ที่ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดก็เป็นได้  พยานหลักฐานเท่าที่โจทก์นำสืบมาจึงยังมีความสงสัย
                ตามสมควรว่าจำเลยทั้งสองได้กระทำผิดหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลยทั้งสอง
                ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๗ วรรคสอง ประกอบพระราชบัญญัติ

                วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๓ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองมานั้น
                ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยทั้งสองฟังขึ้น
                     พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง.

                                                                  สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายสารสนเทศ
                                                                              สำนักงานวิชาการ


                หมายเหตุ
                     ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
                พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๖ ได้กำหนดให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ
                ยาเสพติดต้องระวางโทษเช่นเดียวกับตัวการในความผิดนั้น จึงเป็นบทบัญญัติที่กำหนดอัตราโทษไว้
                สูงกว่าผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๖ ที่ต้องระวางโทษ
                สองในสามส่วนของโทษที่กำหนดไว้ และด้วยเหตุที่เป็นบทบัญญัติที่มีอัตราโทษสูง การจะดำเนินคดี
                บุคคลใดฐานสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามพระราชบัญญัติ
                มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ จึงต้องได้การอนุมัติ
                จับกุมหรือการอนุมัติแจ้งข้อหาจากเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเสียก่อน

                และฐานความผิดที่จะดำเนินคดีฐานสนับสนุนตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปราม
                ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.๒๕๓๔ ได้นั้น ก็เฉพาะความผิดฐานผลิต นำเข้า ส่งออก
                จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติด หรือสมคบ หรือพยายามกระทำความผิด
                ฐานดังกล่าวเท่านั้น และยาเสพติดที่จะดำเนินคดีฐานนี้ได้ก็เฉพาะยาเสพติดชนิดที่กำหนดไว้
                ในกฎกระทรวงกำหนดชื่อยาเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำ
                ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๙ เท่านั้น
                     การสนับสนุนผู้อื่นกระทำความผิด ไม่ว่าจะตามประมวลกฎหมายอาญาก็ดี หรือตาม

                พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ ก็ดี



                                                             อัยการนิเทศ เล่มที่ ๘๖ พ.ศ. ๒๕๖๔  51
   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66