Page 348 - คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป)
P. 348
- คำ�แปลอย่�งไม่เป็นท�งก�ร -
(ซี) สนธิสัญญาความร่วมมือด้านสิทธิบัตร ท าขึ้น ณ กรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน (บี) กรรมสารกรุงเจนีวาของความตกลงกรุงเฮกว่าด้วยการจดทะเบียนการออกแบบ
ค.ศ. 1970 ที่แก้ไขเมื่อวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 1979 และปรับปรุงเมื่อวันที่ อุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ท าขึ้น ณ เมืองเจนีวา เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม
3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1984 และวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 2001 (ต่อไปในที่นี้จะเรียกว่า ค.ศ. 1999
“สนธิสัญญาพี ซี ที” ในบทนี้)
(ซี) อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองนักแสดง ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียง
(ดี) พิธีสารความตกลงกรุงมาดริดว่าด้วยการจดทะเบียนเครื่องหมายระหว่างประเทศ และองค์กรแพร่เสียงแพร่ภาพ ท าขึ้น ณ กรุงโรม เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 1961
รับรอง ณ กรุงมาดริด เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 1989 ที่แก้ไขเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม (ต่อไปในที่นี้จะเรียกว่า “อนุสัญญากรุงโรม” ในบทนี้)
ค.ศ. 2006 และวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 2007 (ต่อไปในที่นี้จะเรียกว่า “พิธีสาร
กรุงมาดริด” ในบทนี้) (ดี) สนธิสัญญาสิงคโปร์ว่าด้วยกฎหมายเครื่องหมายการค้า ท าขึ้น ณ ประเทศสิงคโปร์
(อี) สนธิสัญญาว่าด้วยลิขสิทธิ์ขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก รับรอง ณ เมืองเจนีวา เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 2006
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1996 (ต่อไปในที่นี้จะเรียกว่า “สนธิสัญญาดับบลิว ซี ที” ส่วน บี
ในบทนี้) ลิขสิทธิ์และสิทธิข้างเคียง
(เอฟ) สนธิสัญญาว่าด้วยการแสดงและสิ่งบันทึกเสียงขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ข้อ 11.10: สิทธิแต่เพียงผู้เดียวของผู้สร้างสรรค์ นักแสดง และผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียง
รับรอง ณ เมืองเจนีวา เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1996 (ต่อไปในที่นี้จะเรียกว่า
“สนธิสัญญาดับบลิว พี พี ที” ในบทนี้) และ 1. ภาคีแต่ละฝ่ายจะให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวแก่ผู้สร้างสรรค์ในการอนุญาตการเผยแพร่
ต่อสาธารณชนซึ่งงานของตน โดยวิธีผ่านสายและไร้สาย รวมถึงการท าให้ปรากฏต่อสาธารณชน
(จี) สนธิสัญญามาร์ราเคชเพื่ออ านวยความสะดวกในการเข้าถึงงานที่มีการโฆษณาแล้ว ในลักษณะที่ท าให้ประชาชนสามารถเข้าถึงงานนั้นได้จากสถานที่และในเวลาที่เลือกด้วยตนเอง
ส าหรับคนตาบอด คนพิการทางการเห็น และคนพิการทางสื่อสิ่งพิมพ์ รับรอง
5
ณ เมืองมาร์ราเคช เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 2013 (ต่อไปในที่นี้จะเรียกว่า 2. ภาคีแต่ละฝ่ายจะให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวแก่นักแสดงและผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียง ในการอนุญาต
“สนธิสัญญามาร์ราเคช” ในบทนี้) การท าให้ปรากฏต่อสาธารณชนซึ่งการแสดงที่ถูกบันทึกไว้ในสิ่งบันทึกเสียงและสิ่งบันทึกเสียง
ตามล าดับ โดยวิธีผ่านสายและไร้สาย ในลักษณะที่ท าให้ประชาชนสามารถเข้าถึงงานนั้นได้
2. ภาคีแต่ละฝ่ายจะพยายามให้สัตยาบันหรือภาคยานุวัติเข้าเป็นภาคีความตกลงพหุภาคี จากสถานที่และในเวลาที่เลือกด้วยตนเอง
ที่ตนยังไม่เป็นภาคี ดังนี้ สนธิสัญญากรุงบูดาเปสต์ว่าด้วยการยอมรับระหว่างประเทศ 3. ภาคีแต่ละฝ่ายจะให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวแก่ผู้สร้างสรรค์ นักแสดง และผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียง
ซึ่งการฝากเก็บจุลชีพส าหรับขั้นตอนการจดทะเบียนสิทธิบัตร ท าขึ้น ณ กรุงบูดาเปสต์
ในการอนุญาตหรือห้ามการท าซ้ าซึ่งงาน การแสดงที่ถูกบันทึกไว้ในสิ่งบันทึกเสียง
เมื่อวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 1977 ที่แก้ไขเมื่อวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 1980 และสิ่งบันทึกเสียงของตน ไม่ว่าในลักษณะหรือรูปแบบใด
3. หากภาคีใด ๆ ประสงค์จะให้สัตยาบันหรือภาคยานุวัติเข้าเป็นภาคีความตกลงพหุภาคีใด
ดังต่อไปนี้ ภาคีนั้นอาจขอความร่วมมือจากภาคีอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการให้สัตยาบัน
หรือการภาคยานุวัติและการปฏิบัติตามความตกลงพหุภาคีดังกล่าว
(เอ) อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ ปี 1991 ที่ปรับปรุง
ณ เมืองเจนีวา เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1991
5
เพื่อความมุ่งประสงค์ของบทนี้ ภาคีอาจตีความค าว่า “ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียง” ว่ามีความหมายเดียวกับ “ผู้สร้างสรรค์
งานบันทึกเสียง”
11-5 11-6