Page 30 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่องปราสาทเขมรสมัยบาปวน
P. 30

ซึ่งมีความกว8าง 2.2 กิโลเมตร และยาวถึง 8 กิโลเมตร (แล8วเสร็จในสมัยพระเจ8าอุทัยทิตยวรมันที่ 2)

                    (Jacques, 2002: 134)

                           มาดแลน จิโต (Madeleine Giteau) ผู8เชี่ยวชาญในศิลปะเขมร กล$าวว$า สังคมเขมรในช$วง
                    สมัยนี้ประชาชนที่มีหน8าที่ต$าง ๆ ทั้งการเสียภาษีและส$วย สำหรับข8าทาสชั้นต่ำที่สุดก็คือ ทาสที่ทำนา

                    ส$วนทาสที่มีฐานะสูงขึ้นมาก็คือทาสที่ทำงานฝkมือ เช$น คนครัว ช$างร8อยดอกไม8 ช$างทอผ8า ส$วนการ

                    ก$อสร8างศาสนสถานต8องใช8ทาสสลักหินซึ่งรวมไปถึงขั้นตอนการขนส$ง การติดตั้ง การเตรียมและ
                    เผาอิฐ การขุดและตากศิลาแลง ช$างก$อสร8างนี้ยังรวมถึงงานชลประทาน การสร8างเขื่อน ขุดคลองและ

                    อ$างเก็บน้ำด8วย (มาดแลน จิโต, 2543: 61)
                           ในสมัยพระเจ8าสูรยวรมันที่ 1 มีจารึกหลายหลักที่กล$าวถึง “ปุระ” หรือชุมชนเมืองอย$างน8อย

                    47 แห$ง ขณะที่ในสมัยพระเจ8าชัยวรมันที่ 4 มีปุระ 12 แห$ง สมัยพระเจ8าราเชนทรวรมันมีปุระ 24

                    แห$ง และในสมัยพระเจ8าชัยวรมันที่ 5 มีปุระ 20 แห$ง แสดงว$ามีการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร
                    และเกิดการขยายตัวของชุมชนอย$างก8าวกระโดดในสมัยพระเจ8าสูรยวรมันที่ 1 (Hall, 1975: 320)

                    การสร8างปุระเหล$านี้กระทำโดยการสร8างศาสนสถานขึ้นหรือยกที่ดินว$างเปล$าให8แก$บุคคลหนึ่ง และ
                    ผลที่ตามมาก็คือการจัดตั้งหมู$บ8านเพื่อคอยรับใช8ศาสนสถาน และทำเกษตรกรรมในที่ดินรอบ ๆ ซึ่ง

                    จำเปWนต8องมีระบบชลประทานที่มีประสิทธิภาพ (หม$อมเจ8าสุภัทรดิศ ดิศกุล, 2549: 189) ดังตัวอย$าง

                    ข8อความในจารึกพระเจ8าสูรยวรมันที่ 1 พบที่ จ.สระแก8ว (K.991) กล$าวถึง “ศรีสูรยวรมันได&
                    พระราชทาน (ที่ดิน) พร&อมด&วยอาศรมประกอบด&วยทาสชายและหญิง ใน.......กํเสตงศรีนฤปตีน

                    ทราธิปติวรมัน....ได&ขอพระราชทานด&วยความเคารพแดQพระบาทกมรเตงกำตวนอัญศรีสูรยวรรมเทพ

                    ให&พระราชทานพระราชโองการแกQ........ทางทิศตะวันออกเฉียงใต&จดกับหมูQบ&านตูเรีย ทางทิศใต& ----
                    ทิศตะวันตกเฉียงใต& – สำโรง ทางทิศตะวันตก --- ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจดหมูQบ&าน --- ทางทิศ

                    เหนือ ตระพังตันโนด ----”

                           กษัตริย^เขมรโบราณจึงมีพระราชอำนาจในการให8และรับรองว$าบุคคลใดได8เปWนเจ8าของที่ดิน
                    (มาดแลน จิโต, 2543: 63) ในจารึกโอเสม็ด (K.1198) ซึ่งปNจจุบันอยู$ที่พิพิธภัณฑสถานแห$งชาติ

                    พนมเปญ ก็ระบุถึงพระบรมราชโองการของพระเจ8าสูรยวรมันที่ 1 ใน พ.ศ. 1557 ที่ให8ขุนนางไปปNก
                    จารึกที่มัธยเทศและทำพิธีบูชาพระศิวลึงค^ทองคำ (สุวรรณลิงค^) จารึกยังเล$าย8อนไปใน พ.ศ. 1552 ว$า

                    มรตาญโขลญนฤเปนโทรปกัลลปะ ได8ซื้อที่ดินที่มัธยเทศเพื่อมอบให8แก$ กัมสเตงอัญลักษมิปติวรมัน
                    อีกสองปkต$อมา กัมสเตงอัญลักษมิปติวรมัน ก็ได8ซื้อที่ดินเพิ่มและซื้อภูเขาเพื่อประดิษฐานศิวลึงค^ไว8บน

                    ภูเขาด8วย (กังวล คัชชิมา, 2557: 90)

                           จารึกโอเสม็ดกล$าวต$อไปว$า ใน พ.ศ. 1554 มีกลุ$มคน 2 ตระกูล (ตระกูล โว และ ตำปาง)
                    ตั้งตนเปWนศัตรูกับพระเจ8าสูรยวรมันที่ 1 พระองค^จึงสั่งให8ริบที่ดินของคนกลุ$มนั้นแล8วพระราชทานแก$

                    กัมสเตงอัญลักษมิปติวรมัน ทรงรับสั่งให8ตั้งศิวลึงค^แทนพระพุทธรูปที่ปราสาทนั้น มีการวัดที่ดินและ






                                                            23
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35