Page 41 - วิชาการพยาบาลสาธารณภัยเล่มที่ 1 : สถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สภากาชาดไทย
P. 41

2.2.3  การกู้ภัย เป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและระงับภัยที่เกิดขึ้นให้ลดน้อยลง การกู้ภัยควร
               กระท าทันทีในขณะเกิดสาธารณภัย การกู้ภัยและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต้องมีการฝึกอบรม และมีอุปกรณ์

               เครื่องใช้และบุคลากรที่พร้อมที่จะปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างมีประสิทธิภาพ หน่วยงานที่จะ
               ปฏิบัติงานกู้ภัยจะต้องมีการแยกประเภท มีการจัดรูปแบบของหน่วยงานมี ภารกิจหน้าที่และมีการติดต่อ
               ประสานงานร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ  ในการปฏิบัติหน้าที่ วิธีการหรือแนวทางในการกู้ภัยที่ส าคัญ

               ประกอบด้วย
                                2.2.3.1 การค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย การค้นหาผู้ประสบภัยต้องค านึงถึง
               สถานการณ์  สภาพสิ่งแวดล้อมที่เป็นอยู่ ผู้ให้การช่วยเหลือต้องพิจารณาตนเองว่าสามารถจะด าเนินการได้
               หรือไม่ ด้วยวิธีการใด การจะค้นหาผู้ประสบภัยได้ถูกต้องรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์นั้น ต้องมีการรวบรวม

               ข้อมูลของสาธารณภัยที่เกิดขึ้นในด้านต่าง ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะท าได้ เพื่อน ามาวิเคราะห์และใช้เป็นแนวทาง
               ในการด าเนินงาน การค้นหาผู้ประสบภัยถ้าจ าเป็นต้องใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือทุ่นแรงต่าง ๆ ควรพิจารณาให้
               เหมาะสม และอาจใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ใกล้ๆ บริเวณที่เกิดสาธารณภัยได้
                                2.2.3.2 การให้บริการรักษาพยาบาลฉุกเฉิน การบริการที่ส าคัญ ได้แก่ การปฐมพยาบาล

               และการจ าแนกผู้ประสบภัย
                                2.2.3.3 การเคลื่อนย้ายและส่งต่อผู้ประสบภัยที่บาดเจ็บ เนื่องจากในการเกิดสาธารณภัย
               แต่ละครั้งจะมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจ านวนมากเกินกว่าสถานพยาบาลใกล้เคียง หรือหน่วยเคลื่อนที่จะ
               ให้บริการได้ จึงต้องมีการส่งต่อผู้ประสบภัยไปยังสถานพยาบาลอื่นๆ การเคลื่อนย้ายต้องกระท าด้วยความ

               ถูกต้องรวดเร็วและต้องพยายามให้ผู้ประสบภัยได้รับการกระทบกระเทือนเนื่องจากการเคลื่อนย้ายน้อยที่สุด
               เท่าที่จะท าได้
                                2.2.3.4 การช่วยเหลือฉุกเฉินอื่นๆ นอกจากการช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลแล้ว

               ผู้ประสบภัยยังต้องการความช่วยเหลือในเรื่องความจ าเป็นขั้นพื้นฐานอื่นๆอีกด้วย เช่น อาหาร น้ า เครื่องนุ่งห่ม
               ที่พักอาศัย เป็นต้น
                           2.2.4 การอพยพผู้ประสบภัย เมื่อเกิดสาธารณภัยขึ้นการอยู่อาศัยในพื้นที่ที่เกิดสาธารณภัยนั้นจะ
               เป็นอันตรายได้ จึงต้องมีการอพยพผู้ประสบภัยไปยังที่พักพิงชั่วคราว ในการอพยพนี้ต้องมีการจัดล าดับ
               ความส าคัญของผู้ประสบภัยเพื่อการอพยพก่อน-หลัง เช่นกลุ่มผู้ประสบภัยที่เป็นเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ควรได้รับ

               การอพยพไปก่อนกลุ่มอื่นๆ แต่ในกรณีเด็ก บิดามารดาต้องอพยพไปพร้อมกับเด็กด้วยทั้งครอบครัว เป็นต้น
                                การอพยพผู้ประสบภัย สถานที่ที่ใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวต้องปลอดภัย ต้องช่วยเหลือผู้
               อพยพในการขนย้ายทรัพย์สินที่ส าคัญที่อยู่ในพื้นที่สาธารณภัยไปด้วยตามที่ผู้อพยพร้องขอ ต้องมีการจัดท า

               ทะเบียนผู้อพยพ และจัดให้มีบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขในบริเวณที่พักพิงชั่วคราวด้วย
                           2.2.5 การสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ข้อมูลในภาวะฉุกเฉิน เมื่อเกิดสาธารณภัย การสื่อสาร
               เป็นสิ่งจ าเป็นเนื่องจากต้องมีการประสานการปฏิบัติในการจัดการสาธารณภัยอย่างต่อเนื่อง แต่ระบบการ
               สื่อสารอาจถูกท าลายได้ จ าเป็นต้องมีการจัดตั้งเครื่องมือในการติดต่อ สื่อสารที่จ าเป็น เช่น วิทยุ โทรศัพท์
               โทรสาร เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารด้วย ข้อมูลที่ผู้ปฏิบัติงานในจุดเกิดภัยต้องรายงานกลับมายังศูนย์ปฏิบัติการ

               ได้แก่ ลักษณะของภัยที่เกิดขึ้น  สถานที่ที่เกิดภัย  ชนิดของภัย  อันตราย หรือการปนเปื้อนสารเคมีต่างๆ  การ
               เข้าถึงจุดเกิดภัย  จ านวนผู้ประสบภัย  การบริการฉุกเฉินที่มีอยู่แล้ว (Major  accident, Exact location,
               Type, Hazard, Access, Number of casualties, Emergency services: METHANE)





                                                                                                       41
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46