Page 16 - สรุปสาระสำคัญ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)
P. 16

- 12 -                                                    - 13 -

 2.7 ภาคีสามารถร้องขอให้มีการหารือทางเทคนิคกับภาคีอื่น หากเห็นว่า มาตรการของภาคีนั้นส่งผล  ของสินค้า เกณฑ์ถิ่นก าเนิดสินค้าที่ใช้เพื่อให้ได้รับสิทธิถิ่นก าเนิด ประเทศถิ่นก าเนิดสินค้า มูลค่า FOB ของสินค้า
 กระทบเชิงลบต่อการค้าของตน เพื่อหาข้อสรุปอันเป็นที่พึงพอใจร่วมกัน    ปริมาณของสินค้า ตามที่ระบุไว้ในภาคผนวก 3 บี (ข้อก าหนดเรื่องข้อมูลขั้นต่ า)
 2.8 ภาคีจะต้องแจ้งกระบวนการให้ใบอนุญาตน าเข้าของตนให้ภาคีอื่นทราบ โดยส าหรับกระบวนการให้  3.6 จะต้องมีการทบทวนเกี่ยวกับหลักฐานการรับรองถิ่นก าเนิดสินค้าหลังจากความตกลงมีผลใช้บังคับ
 ใบอนุญาตใหม่หรือที่ปรับแก้ไขภายหลังความตกลงมีผลใช้บังคับ ภาคีจะต้องแจ้งว่า มีเงื่อนไขตามรายการที่  กับรัฐผู้ลงนามทั้งหมด และจะต้องสรุปผลการทบทวนภายใน 5 ปี เว้นแต่ภาคีตกลงเป็นอย่างอื่น

 ก าหนดไว้หรือไม่ในการพิจารณาให้ใบอนุญาตน าเข้า เช่น การเป็นสมาชิกของสมาคม ความเห็นชอบจากสมาคม  3.7 จะต้องมีการทบทวนเกี่ยวกับข้อมูลที่ต้องการส าหรับตัวอย่างลายมือชื่อของหน่วยงานผู้ออก
 อุตสาหกรรมในการขอใบอนุญาตน าเข้า ประวัติการน าเข้าสินค้า ก าลังการผลิตขั้นต่ า ทุนจดทะเบียนขั้นต่ า   หนังสือรับรองถิ่นก าเนิดสินค้าภายใน 3 ปีหลังจากความตกลงมีผลใช้บังคับกับรัฐผู้ลงนามทั้งหมด
 นอกจากนี้ ภาคีจะต้องแจ้งภาคีอื่นเกี่ยวกับกระบวนการให้ใบอนุญาตใหม่หรือที่จะมีการปรับแก้ไขให้เร็วที่สุด  3.8 อนุญาตให้ยื่นขอใช้สิทธิประโยชน์ทางอากรศุลกากรส าหรับสินค้าที่ได้ถิ่นก าเนิดภายหลังการน าเข้า

 เท่าที่จะเป็นไปได้ภายใน 30 วันก่อนที่กระบวนการใหม่จะมีผลใช้บังคับ แต่ไม่เกิน 60 วันหลังจากวันที่ประกาศ  เพื่อขอรับคืนภาษีส่วนเกิน หรือเงินประกัน ภายในระยะเวลาที่ก าหนดในกฎหมายของตน
 เผยแพร่กระบวนการดังกล่าว รวมทั้งให้มีการเผยแพร่กระบวนการใหม่หรือที่ปรับแก้ไขบนเว็บไซต์ทางการของ  3.9 ก าหนดขั้นตอนกระบวนการตรวจสอบและระยะเวลาในการตอบกลับภายใน  30-90  วัน และ
 รัฐบาลอย่างน้อย 21 วันก่อนที่กระบวนการใหม่จะมีผลใช้บังคับ    พยายามที่จะมีค าตัดสินผลการตรวจสอบภายใน 90-180 วันนับตั้งแต่วันที่ได้ข้อมูลที่จ าเป็นครบถ้วนส าหรับการ
 2.9 ภาคีสามารถริเริ่มจัดท าแผนงานเกี่ยวกับมาตรการที่มิใช่ภาษีในสาขาเฉพาะ โดยจะอยู่ภายใต้การ  ตัดสิน ในกรณีที่มีการร้องขอจากภาคีผู้น าเข้า

 ก ากับดูแลของคณะกรรมการด้านสินค้า ทั้งนี้ ภาคีจะต้องพยายามจัดท าแผนงานดังกล่าวให้เสร็จสิ้นไม่ช้าไปกว่า   3.10 ให้มีการก าหนดจุดติดต่อ  (contact point)  เพื่อประสานงาน จ านวน 1 จุด หรือมากกว่า และ
 2 ปีภายหลังที่ได้ริเริ่มแผนงาน   แจ้งให้ภาคีอื่นทราบ ภายใน 30  วัน นับตั้งแต่วันที่ความตกลงมีผลใช้บังคับ ทั้งนี้ จะต้องแจ้งทันทีหากมีการ
               เปลี่ยนแปลง
 บทที่ 3  กฎถิ่นก าเนิดสินค้า

 บทกฎถิ่นก าเนิดสินค้า ประกอบด้วย 35 ข้อบท (แบ่งเป็น 2 ส่วนส าคัญ คือ กฎถิ่นก าเนิดสินค้า   บทที่ 4 พิธีการศุลกากรและการอ านวยความสะดวกทางการค้า
 และระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับหนังสือรับรองถิ่นก าเนิดสินค้า) ภาคผนวก 3 เอ (กฎเฉพาะรายสินค้า) และ     บทพิธีการศุลกากรและการอ านวยความสะดวกทางการค้า ประกอบด้วย 21 ข้อบท และภาคผนวก
 ภาคผนวก 3 บี (ข้อก าหนดเรื่องข้อมูลขั้นต่ า)    4 เอ (ระยะเวลาในการปฏิบัติตามพันธกรณี)
 3.1 อนุญาตให้มีการสะสมถิ่นก าเนิดสินค้า โดยภาคีสามารถน าสินค้าที่ได้ถิ่นก าเนิดในภูมิภาค RCEP   4.1 หน่วยงานศุลกากรของภาคีจะต้องปฏิบัติและใช้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับทางศุลกากรให้

 แล้ว มาสะสมถิ่นก าเนิดสินค้าต่อได้ โดยถือเสมือนว่าสินค้าดังกล่าวมีถิ่นก าเนิดในประเทศภาคีนั้น ๆ    สอดคล้องกัน
 3.2 ก าหนดเกณฑ์การได้ถิ่นก าเนิดสินค้า ได้แก่ (1)  เกณฑ์การผลิตหรือได้มาทั้งหมดภายในประเทศ  4.2 ภาคีจะต้องท าให้มั่นใจถึงการคาดการณ์ได้ ความสอดคล้อง และความโปร่งใสในการใช้กฎหมาย
 ภาคี (Wholly Obtained: WO) ซึ่งใช้กับสินค้าที่ผลิตขึ้นหรือได้มาจากภาคีใดภาคีหนึ่งเพียงประเทศเดียว โดยไม่  และระเบียบข้อบังคับทางศุลกากรของภาคีแต่ละฝ่าย
 มีการใช้วัตถุดิบจากภาคีอื่นหรือนอกภาคี (2) เกณฑ์กระบวนการผลิตทั้งหมดภายในประเทศภาคีจากวัตถุดิบที่ได้  4.3 จะต้องมีการเผยแพร่ข้อมูล (เช่น กระบวนการในการน าเข้า ส่งออก การผ่านแดนซึ่งจะต้องระบุ

 ถิ่นก าเนิด (Produce Exclusively: PE) ซึ่งให้สิทธิถิ่นก าเนิดกับสินค้าที่ผลิตขึ้น โดยใช้วัตถุดิบที่ได้ถิ่นก าเนิดจาก  ขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้ของแต่ละท่าเรือ ท่าอากาศยาน หรือจุดผ่านแดนของสินค้า กระบวนการอุทธรณ์และ
 ภาคีหลาย ๆ ประเทศมารวมกัน และ (3) กฎเฉพาะรายสินค้า (Product  Specific Rules:  PSRs) ซึ่งก าหนด  ทบทวนส าหรับการน าเข้า ส่งออก และผ่านแดนของสินค้า) โดยทันทีในลักษณะที่สามารถเข้าถึงได้โดยง่าย และ
 เกณฑ์ถิ่นก าเนิดสินค้าส าหรับสินค้าที่ผลิตขึ้นโดยใช้วัตถุดิบจากนอกภาคี ส าหรับสินค้าทุกรายการ (5,205   จะต้องเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล กฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
 รายการที่พิกัดศุลกากรระดับ 6 หลัก ในระบบ HS  2012)  ตามตารางที่ระบุไว้ในภาคผนวก 3 เอ (กฎเฉพาะราย  4.4 ภาคีสามารถยื่นเอกสารและข้อมูลการน าเข้าสินค้าก่อนที่สินค้ามาถึงในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้

 สินค้า) และจะต้องมีการแปลงพิกัดศุลกากรส าหรับตาราง PSRs ให้ทันสมัยตามที่มีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละรอบ   4.5 ภาคีแต่ละฝ่ายต้องจัดท าค าวินิจฉัยล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรให้กับผู้น าเข้า ผู้ส่งออก หรือ
 3.3 อนุญาตให้มีการรับรองถิ่นก าเนิดสินค้าได้ 3 รูปแบบ คือ (1) หนังสือรับรองถิ่นก าเนิดสินค้าที่ออก  บุคคลใด ๆ ที่มีเหตุอันควร หรือผู้แทน ที่ได้ยื่นค าร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษรซึ่งประกอบด้วยข้อมูลที่จ าเป็น
 โดยหน่วยงานออกหนังสือรับรองถิ่นก าเนิดสินค้า (Issuing Authority) (2) ค ารับรองถิ่นก าเนิดสินค้าโดยผู้ส่งของ  ทั้งหมด และภาคีผู้ออกค าวินิจฉัยล่วงหน้าจะต้องด าเนินการออกค าวินิจฉัยล่วงหน้าภายใน 90 วันหากผู้ร้องขอ

 ออกรับอนุญาต (Declaration of Origin by Approved Exporters) หรือ (3) ค ารับรองถิ่นก าเนิดสินค้าโดยผู้ส่ง  ยื่นเอกสารที่ครบถ้วนสมบูรณ์ และค าวินิจฉัยล่วงหน้ามีผลในการใช้บังคับหรือมีอายุอย่างน้อย 3 ปี
 ของออกหรือผู้ผลิต (Declaration of  Origin  by Exporter or Producer) โดยภาคีต้องเริ่มใช้การรับรองถิ่น  4.6 กรณีเป็นไปได้ หน่วยงานของภาคีจะต้องท าการตรวจปล่อยสินค้าภายในระยะเวลาที่กฎหมาย
 ก าเนิดสินค้าในรูปแบบที่ (3) ภายใน 10 - 30 ปี หลังจากที่ความตกลงมีผลใช้บังคับ    ก าหนด หรือภายใน 48 ชั่วโมงนับแต่สินค้านั้นมาถึง และก าหนดให้มีการตรวจปล่อยสินค้าเร่งด่วนภายใน 6 ชั่วโมง
 3.4 จะมีการทบทวนเรื่องการขยายการสะสมถิ่นก าเนิดที่ให้นับรวมกระบวนการผลิตและการเพิ่มมูลค่า  นับแต่สินค้านั้นมาถึง
 สินค้าทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นภายในภาคี (full cumulation) เมื่อรัฐผู้ลงนามทั้งหมดได้ใช้บังคับความตกลงแล้ว โดย  4.7 ให้แสดงรายละเอียดที่เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนเกี่ยวกับการอุทธรณ์หรือการทบทวน เช่น

 ให้พิจารณาเสร็จสิ้นภายใน 5 ปี    เหตุผลที่ใช้ในการตัดสิน ระยะเวลาในการตัดสิน การปฏิบัติตามค าตัดสิน
 3.5 ก าหนดระเบียบปฏิบัติในการรับรองถิ่นก าเนิดสินค้า (Operational Certification Procedures)   4.8 ภาคีอาจร้องขอค าปรึกษาจากอีกภาคีหนึ่งได้ โดยจะต้องด าเนินการผ่านจุดติดต่อ (Contact
 ที่ระบุเงื่อนไขเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์ โดยจะมีการหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบของเอกสารรับรองถิ่น  point)  ของภาคีภายในเวลา 30 วันนับแต่วันที่ได้รับการร้องขอ หากการหารือไม่เป็นผล ภาคีผู้ร้องขออาจยื่น

 ก าเนิดสินค้าหลังจากที่มีการลงนามแล้ว อีกทั้งมีการระบุรายการของข้อมูลที่จ าเป็นส าหรับหนังสือรับรองถิ่น  เรื่องไปยังคณะกรรมการด้านสินค้า
 ก าเนิดสินค้า  (Certificate  of Origin)  หรือการรับรองถิ่นก าเนิดสินค้าด้วยตนเองโดยผู้ส่งออก/ผู้ผลิต   4.9 ก าหนดให้มีจุดติดต่อ (contact point) เพื่อประสานงาน จ านวน 1 จุด หรือมากกว่า และแจ้งให้
 (Declaration of Origin) เช่น ชื่อและที่อยู่ของผู้ส่งออก ชื่อและที่อยู่ของผู้น าเข้า พิกัดศุลกากรและรายละเอียด  ภาคีอื่นทราบ ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ความตกลงมีผลใช้บังคับ ทั้งนี้ จะต้องแจ้งทันทีหากมีการเปลี่ยนแปลง
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21