Page 17 - สรุปสาระสำคัญ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)
P. 17
- 14 -
4.10 ก าหนดให้มีจุดตอบข้อซักถาม (enquiry point) จ านวน 1 จุด หรือมากกว่า เพื่อตอบค าถามผู้ที่
สนใจและอ านวยความสะดวกในการเข้าถึงเอกสารที่เกี่ยวข้อง
4.11 ให้มีระยะเวลาปรับตัวในการปฏิบัติตามบางพันธกรณี ส าหรับบรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา จีน
อินโดนีเซีย สปป.ลาว มาเลเซีย เมียนมา และเวียดนาม ตามที่ระบุไว้ในภาคผนวก 4 เอ (ระยะเวลาในการปฏิบัติ
ตามพันธกรณี)
บทที่ 5 มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช
บทมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ประกอบด้วย 17 ข้อบท
5.1 ยืนยันถึงสิทธิและพันธกรณีภายใต้ความตกลงว่าด้วยการใช้บังคับมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัย
พืช (Agreement on the Application of Sanitary and Phytosanitary Measures: SPS) ภายใต้ WTO
5.2 ส่งเสริมให้มีความร่วมมือในการยอมรับมาตรการที่เท่าเทียมกัน
5.3 ส่งเสริมให้มีความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อาทิ หลักการการปรับให้เข้ากับสภาพของภูมิภาค รวมทั้ง
พื้นที่ปลอดศัตรูพืชหรือโรค และพื้นที่ที่มีความแพร่หลายของศัตรูพืชหรือโรคต่ า การวิเคราะห์ความเสี่ยงต้อง
สอดคล้องกับความตกลง SPS โดยมิให้กระทบต่อมาตรการฉุกเฉิน ภาคีทุกประเทศต้องไม่ระงับการน าเข้าสินค้า
ของภาคีอีกฝ่าย ด้วยเหตุผลเพียงว่าภาคีผู้น าเข้าก าลังทบทวนมาตรการ SPS ของตนอยู่ หากภาคีผู้น าเข้าได้
อนุญาตให้มีการน าเข้าสินค้าดังกล่าวแล้วจากภาคีอื่นเมื่อขณะที่เริ่มการทบทวนมาตรการดังกล่าว
5.4 การตรวจสอบต้องด าเนินการเป็นระบบ และด าเนินการเพื่อประเมินประสิทธิภาพในการควบคุม
ก ากับดูแลของหน่วยงานผู้มีอ านาจ และต้องให้โอกาสภาคีผู้ส่งออกในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการ
ตรวจสอบ และน าข้อคิดเห็นดังกล่าวมาพิจารณาก่อนท าการสรุปและด าเนินการใด ๆ
5.5 ก าหนดการออกใบรับรองที่แสดงให้เห็นถึงข้อก าหนดด้านสุขอนามัยของภาคีผู้น าเข้าและออกโดย
หน่วยงานผู้มีอ านาจของภาคีผู้ส่งออกเป็นภาษาอังกฤษ
5.6 การตรวจสอบการน าเข้าต้องอยู่บนพื้นฐานความเสี่ยงด้าน SPS ที่เกี่ยวกับการน าเข้า โดยเป็นไป
ตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมายของภาคีผู้น าเข้า ผลการตัดสินหรือการด าเนินการสุดท้ายที่เกี่ยวกับการน าเข้า
ของสินค้าที่ไม่เป็นไปตามข้อก าหนดของภาคีผู้น าเข้าต้องมีความเหมาะสมต่อความเสี่ยงด้าน SPS
5.7 ก าหนดให้มีการทบทวนมาตรการฉุกเฉินภายในช่วงระยะเวลาที่สมเหตุสมผล รวมถึงการ
แลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อช่วยในการทบทวนมาตรการฉุกเฉินดังกล่าว โดยอยู่บนพื้นฐานข้อมูลล่าสุดที่สามารถหาได้
และต้องสามารถอธิบายเหตุผลของการยังคงใช้มาตรการฉุกเฉินนั้นต่อไป หากมีการร้องขอ
5.8 ในการแจ้งมาตรการ SPS ต้องเปิดโอกาสให้ภาคีได้ให้ข้อคิดเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อย 60
วัน หลังจากด าเนินการแจ้งมาตรการ หากมีการร้องขอ ต้องให้เอกสารหรือสรุปเอกสารที่อธิบายข้อก าหนดของ
ร่างมาตรการ SPS ที่แจ้งต่อองค์การการค้าโลกเป็นภาษาอังกฤษแก่ภาคีที่ร้องขอ ภายใน 30 วัน
5.9 สนับสนุนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของภาคีในการแบ่งปันแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์
ความร่วมมือในสาขาที่มีความสนใจร่วมกัน การยกระดับความร่วมมือในการพัฒนาและปรับปรุงมาตรการ SPS ระหว่างกัน
5.10 ให้มีการก าหนดจุดติดต่อ (contact point) เพื่ออ านวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร จ านวน 1
จุด หรือมากกว่า และแจ้งภาคีอื่นทราบ ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ความตกลงมีผลใช้บังคับ อีกทั้งจะต้องแจ้ง
รายละเอียดของหน่วยงานผู้มีอ านาจ ผ่านจุดติดต่อดังกล่าว ทั้งนี้ จะต้องแจ้งหากมีการเปลี่ยนแปลงจุดติดต่อและ
หน่วยงานผู้มีอ านาจ รวมถึงปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยอยู่เสมอ
5.11 จะไม่มีการน าบทการระงับข้อพิพาทมาใช้กับบทนี้ จะมีการทบทวนหลังความตกลงมีผลใช้บังคับ
แล้ว 2 ปี โดยในระหว่างการทบทวนจะมีการพิจารณาน าบทการระงับข้อพิพาทมาใช้กับทั้งหมดหรือบางส่วนของ
บทนี้ การทบทวนจะต้องแล้วเสร็จภายใน 3 ปีนับจากวันที่ความตกลงมีผลใช้บังคับ โดยจะมีการบังคับใช้กับภาคี
ที่มีความพร้อม ส าหรับภาคีที่ยังไม่มีความพร้อม จะหารือกับภาคีอื่นและอาจมีการน ามาบังคับใช้เมื่อเข้าร่วมเป็น
ภาคีอื่นที่มีพันธกรณีที่คล้ายคลึงกัน