Page 13 - สรุปสาระสำคัญ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)
P. 13
- 10 -
การลงนามในร่างความตกลงฯ พร้อมทั้งขอให้คณะรัฐมนตรีเสนอขอความเห็นชอบต่อรัฐสภาในคราวเดียวกัน โดย
เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่เสนอและให้ขอความเห็นชอบต่อรัฐสภาแล้ว กระทรวงพาณิชย์สามารถด าเนินการ
ให้มีการลงนามได้ เมื่อลงนามแล้วจึงเสนอเรื่องต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และเมื่อรัฐสภาให้ความ
เห็นชอบแล้ว จึงจะด าเนินการแสดงเจตนาให้มีผลผูกพันตามข้อ 20.6 ของร่างความตกลงฯ ได้ ทั้งนี้ เป็นไปตาม
มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการเสนอหนังสือสัญญาตาม
บทบัญญัติมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญฯ
5.3.2 ตามมาตรา 178 วรรคสี่ของของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ก าหนดให้มีกฎหมาย
ก าหนดวิธีการที่ประชาชนจะเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและได้รับการเยียวยาที่จ าเป็นอันเกิดจาก
ผลกระทบของการท าหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 วรรคสามของรัฐธรรมนูญฯ อย่างไรก็ดี ในขณะที่การจัดท า
กฎหมายดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ จึงเห็นสมควรให้กระทรวงพาณิชย์ด าเนินการให้ประชาชนเข้ามาส่วนร่วมในการ
แสดงความคิดเห็นและได้รับการเยียวยาตามแนวทางที่ปฏิบัติอยู่หรือตามที่เห็นสมควร
5.3.3 กระทรวงพาณิชย์ต้องขอความเห็นชอบบุคคลที่จะเป็นผู้ลงนาม ซึ่งหากไม่ใช่นายกรัฐมนตรี
หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต้องให้กระทรวงการต่างประเทศจัดท าหนังสือมอบอ านาจเต็ม (Full
Powers) เว้นแต่จะเป็นที่ยอมรับระหว่างคู่ภาคีว่าไม่จ าเป็นต้องแสดงหนังสือมอบอ านาจเต็มก็ให้ส่วนราชการ
เจ้าของเรื่องแจ้งคณะรัฐมนตรีทราบด้วย ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2556 เรื่องหลักเกณฑ์
และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการออกหนังสือมอบอ านาจเต็ม
5.3.4 กระทรวงการต่างประเทศจะด าเนินการจัดท าหนังสือแจ้งการมีผลใช้บังคับของร่างความตกลง
RCEP เมื่อ (1) รัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างความตกลง RCEP และ (2) กระทรวงพาณิชย์ได้มีหนังสือแจ้งยืนยันว่า
ฝ่ายไทยได้ด าเนินกระบวนการต่าง ๆ ที่จ าเป็นส าหรับการมีผลใช้บังคับของร่างความตกลง RCEP เสร็จสิ้นแล้ว
6. สรุปสาระส าคัญของความตกลง RCEP รายบท
โครงสร้างความตกลง RCEP ประกอบด้วย 20 บท (17 ภาคผนวกแนบท้ายบท) คือ อารัมภบท
(1) บทบัญญัติเบื้องต้นและค านิยามทั่วไป (2) การค้าสินค้า (3) กฎถิ่นก าเนิดสินค้า (4) พิธีการศุลกากรและการ
อ านวยความสะดวกทางการค้า (5) มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (6) มาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค
และกระบวนการตรวจสอบและรับรอง (7) การเยียวยาทางการค้า (8) การค้าบริการ (9) การเคลื่อนย้ายชั่วคราว
ของบุคคลธรรมดา (10) การลงทุน (11) ทรัพย์สินทางปัญญา (12) พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (13) การแข่งขัน
ทางการค้า (14) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ (15) วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (16) การ
จัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ (17) บทบัญญัติทั่วไปและข้อยกเว้น (18) บทบัญญัติเกี่ยวกับสถาบัน (19) การระงับข้อ
พิพาท (20) บทบัญญัติสุดท้าย และ 4 ภาคผนวกแนบท้ายความตกลง คือ ภาคผนวก 1 ตารางข้อผูกพันทาง
ภาษี ภาคผนวก 2 ตารางข้อผูกพันเฉพาะส าหรับบริการ ภาคผนวก 3 ตารางข้อสงวนและมาตรการที่ไม่
สอดคล้องกับพันธกรณีส าหรับบริการและการลงทุน และภาคผนวก 4 ตารางข้อผูกพันเฉพาะในการเคลื่อนย้าย
ชั่วคราวของบุคคลธรรมดา
อารัมภบท
ความตกลง RCEP ซึ่งได้มีการประกาศเริ่มเจรจาเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2555 เป็นความตกลงที่มุ่ง
ให้เกิดการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคที่กว้างและลึกยิ่งขึ้น เสริมสร้างการเจริญเติบโตและการพัฒนาทาง
เศรษฐกิจอย่างเท่าเทียม และพัฒนาความร่วมมือบนความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ระหว่างภาคี โดยจะมีการ
ก าหนดกฎระเบียบที่ชัดเจนเพื่ออ านวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน ซึ่งค านึงถึงระดับของการพัฒนาที่
แตกต่างกันระหว่างภาคี การได้รับการปฏิบัติที่พิเศษและแตกต่าง โดยเฉพาะกับกัมพูชา สปป. ลาว เมียนมา และ
เวียดนาม ในระดับที่เหมาะสม รวมถึงความยืดหยุ่นเพิ่มเติมส าหรับภาคีที่เป็นประเทศพัฒนาน้อยที่สุด โดยให้
ความส าคัญกับการมีธรรมาภิบาลที่ดีและการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่โปร่งใสและมั่นคง รวมถึงสิทธิของ
ภาคีที่จะออกกฎระเบียบเพื่อวัตถุประสงค์สาธารณะ