Page 18 - สรุปสาระสำคัญ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)
P. 18
- 14 - - 15 -
4.10 ก าหนดให้มีจุดตอบข้อซักถาม (enquiry point) จ านวน 1 จุด หรือมากกว่า เพื่อตอบค าถามผู้ที่ บทที่ 6 มาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค และกระบวนการตรวจสอบและรับรอง
สนใจและอ านวยความสะดวกในการเข้าถึงเอกสารที่เกี่ยวข้อง บทมาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค และกระบวนการตรวจสอบและรับรอง ประกอบด้วย 14 ข้อบท
4.11 ให้มีระยะเวลาปรับตัวในการปฏิบัติตามบางพันธกรณี ส าหรับบรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา จีน 6.1 ให้ความส าคัญกับมาตรฐาน แนวทาง และข้อแนะน าระหว่างประเทศที่มีต่อการปรับประสาน
อินโดนีเซีย สปป.ลาว มาเลเซีย เมียนมา และเวียดนาม ตามที่ระบุไว้ในภาคผนวก 4 เอ (ระยะเวลาในการปฏิบัติ กฎระเบียบทางเทคนิค กระบวนการตรวจสอบและรับรอง มาตรฐานแห่งชาติและการลดอุปสรรคต่อการค้าที่ไม่จ าเป็น
ตามพันธกรณี) 6.2 การจัดท า การน ามาใช้ และการใช้มาตรฐานต้องเป็นไปตามภาคผนวก 3 ของความตกลงว่าด้วย
อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า (Technical Barriers to Trade Agreement: TBT) ภายใต้ WTO และสนับสนุน
บทที่ 5 มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ให้หน่วยงานให้ความร่วมมือและแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการก าหนดมาตรฐานให้ภาคีรับทราบ
บทมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ประกอบด้วย 17 ข้อบท 6.3 ภาคีต้องใช้มาตรฐานระหว่างประเทศหรือส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นพื้นฐานในการก าหนดกฎระเบียบทาง
5.1 ยืนยันถึงสิทธิและพันธกรณีภายใต้ความตกลงว่าด้วยการใช้บังคับมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัย เทคนิคตามขอบเขตที่ก าหนดไว้ในวรรค 4 ของข้อ 2 ของความตกลง TBT โดยไม่เป็นการจ ากัดทางการค้าเกิน
พืช (Agreement on the Application of Sanitary and Phytosanitary Measures: SPS) ภายใต้ WTO กว่าความจ าเป็น รวมทั้งต้องพิจารณาเพื่อเป็นผลในการยอมรับความเทียบเท่าของกฎระเบียบทางเทคนิคของภาคี
5.2 ส่งเสริมให้มีความร่วมมือในการยอมรับมาตรการที่เท่าเทียมกัน อื่น แม้ว่ากฎระเบียบเหล่านั้นจะมีความแตกต่างจากกฎระเบียบของประเทศตน ระยะเวลาระหว่างการประกาศ
5.3 ส่งเสริมให้มีความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อาทิ หลักการการปรับให้เข้ากับสภาพของภูมิภาค รวมทั้ง กฎระเบียบทางเทคนิคและการบังคับใช้ต้องสมเหตุผลหรือไม่น้อยกว่า 6 เดือน ยกเว้นในกรณีที่เกิดปัญหาเร่งด่วน
พื้นที่ปลอดศัตรูพืชหรือโรค และพื้นที่ที่มีความแพร่หลายของศัตรูพืชหรือโรคต่ า การวิเคราะห์ความเสี่ยงต้อง เกี่ยวกับความปลอดภัย สุขภาพ การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม หรือความมั่นคงของประเทศหรือถูกคุกคามว่าจะเกิด
สอดคล้องกับความตกลง SPS โดยมิให้กระทบต่อมาตรการฉุกเฉิน ภาคีทุกประเทศต้องไม่ระงับการน าเข้าสินค้า ปัญหา และการจัดท าและการประกาศใช้กฎระเบียบทางเทคนิคต้องใช้รูปแบบเดียวกันอย่างสม่ าเสมอทั่วทั้ง
ของภาคีอีกฝ่าย ด้วยเหตุผลเพียงว่าภาคีผู้น าเข้าก าลังทบทวนมาตรการ SPS ของตนอยู่ หากภาคีผู้น าเข้าได้ อาณาเขตของตน
อนุญาตให้มีการน าเข้าสินค้าดังกล่าวแล้วจากภาคีอื่นเมื่อขณะที่เริ่มการทบทวนมาตรการดังกล่าว 6.4 ภาคีต้องใช้มาตรฐานระหว่างประเทศหรือส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นพื้นฐานในการก าหนดกระบวนการ
5.4 การตรวจสอบต้องด าเนินการเป็นระบบ และด าเนินการเพื่อประเมินประสิทธิภาพในการควบคุม ตรวจสอบและรับรอง รวมทั้งให้ความส าคัญในการยอมรับผลของกระบวนการตรวจสอบและรับรอง และส่งเสริม
ก ากับดูแลของหน่วยงานผู้มีอ านาจ และต้องให้โอกาสภาคีผู้ส่งออกในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการ ความร่วมมือระหว่างหน่วยตรวจสอบและรับรองของตน รวมถึงต้องอนุญาตให้ภาคีอีกฝ่ายมีส่วนร่วมใน
ตรวจสอบ และน าข้อคิดเห็นดังกล่าวมาพิจารณาก่อนท าการสรุปและด าเนินการใด ๆ กระบวนการตรวจสอบและรับรองของตน โดยภาคีต้องให้ค าอธิบายในกรณีไม่ยอมรับผลการตรวจสอบและรับรอง
5.5 ก าหนดการออกใบรับรองที่แสดงให้เห็นถึงข้อก าหนดด้านสุขอนามัยของภาคีผู้น าเข้าและออกโดย และต้องให้ค าอธิบายเมื่อปฏิเสธการเข้าร่วมด าเนินการของหน่วยตรวจสอบรับรองของภาคีอื่น เมื่อได้รับการร้องขอ
หน่วยงานผู้มีอ านาจของภาคีผู้ส่งออกเป็นภาษาอังกฤษ 6.5 สนับสนุนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของภาคีในการแบ่งปันแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์
5.6 การตรวจสอบการน าเข้าต้องอยู่บนพื้นฐานความเสี่ยงด้าน SPS ที่เกี่ยวกับการน าเข้า โดยเป็นไป ความร่วมมือในสาขาที่มีความสนใจร่วมกัน การยกระดับความร่วมมือในการพัฒนาและปรับปรุงมาตรฐาน
ตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมายของภาคีผู้น าเข้า ผลการตัดสินหรือการด าเนินการสุดท้ายที่เกี่ยวกับการน าเข้า กฎระเบียบทางเทคนิค และกระบวนการตรวจสอบรับรอง
ของสินค้าที่ไม่เป็นไปตามข้อก าหนดของภาคีผู้น าเข้าต้องมีความเหมาะสมต่อความเสี่ยงด้าน SPS 6.6 ภาคีสามารถร้องขอให้มีการหารือทางเทคนิคเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการค้าและบทบัญญัติ
5.7 ก าหนดให้มีการทบทวนมาตรการฉุกเฉินภายในช่วงระยะเวลาที่สมเหตุสมผล รวมถึงการ ภายใต้บทนี้ โดยให้เริ่มด าเนินการภายใน 60 วันเมื่อได้รับการร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษร
แลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อช่วยในการทบทวนมาตรการฉุกเฉินดังกล่าว โดยอยู่บนพื้นฐานข้อมูลล่าสุดที่สามารถหาได้ 6.7 ภาคีต้องให้เอกสารฉบับเต็มหรือสรุปกฎระเบียบทางเทคนิคและกระบวนการตรวจสอบและรับรอง
และต้องสามารถอธิบายเหตุผลของการยังคงใช้มาตรการฉุกเฉินนั้นต่อไป หากมีการร้องขอ หากมีเอกสารเป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว หากไม่มี ต้องสรุปข้อก าหนดกฎระเบียบและกระบวนการตรวจสอบและ
5.8 ในการแจ้งมาตรการ SPS ต้องเปิดโอกาสให้ภาคีได้ให้ข้อคิดเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อย 60 รับรองที่มีการแจ้งเป็นภาษาอังกฤษให้แก่ภาคีที่ร้องขอ เมื่อได้รับการร้องขอภายใน 30 วัน และมีการก าหนด
วัน หลังจากด าเนินการแจ้งมาตรการ หากมีการร้องขอ ต้องให้เอกสารหรือสรุปเอกสารที่อธิบายข้อก าหนดของ ระยะเวลา 60 วัน ในการเปิดรับข้อคิดเห็นจากภาคีต่อกฎระเบียบทางเทคนิคใหม่นับจากวันที่แจ้ง WTO และหาก
ร่างมาตรการ SPS ที่แจ้งต่อองค์การการค้าโลกเป็นภาษาอังกฤษแก่ภาคีที่ร้องขอ ภายใน 30 วัน สินค้าโดนกักที่จุดน าเข้าเนื่องจากไม่เป็นไปตามกฎระเบียบหรือกระบวนการตรวจสอบรับรองให้ภาคีผู้น าเข้าแจ้ง
5.9 สนับสนุนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของภาคีในการแบ่งปันแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ เหตุผลกับผู้ประกอบการหรือผู้แทน และมีก าหนดเวลา 60 วันในการให้ข้อมูลหรือค าอธิบายให้กับภาคีที่ร้องขอ
ความร่วมมือในสาขาที่มีความสนใจร่วมกัน การยกระดับความร่วมมือในการพัฒนาและปรับปรุงมาตรการ SPS ระหว่างกัน 6.8 ให้มีการก าหนดจุดติดต่อ (contact point) เพื่ออ านวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนข้อมูล
5.10 ให้มีการก าหนดจุดติดต่อ (contact point) เพื่ออ านวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร จ านวน 1 จ านวน 1 จุด หรือมากกว่า และแจ้งให้ภาคีอื่นทราบ ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ความตกลงมีผลใช้บังคับ ทั้งนี้
จุด หรือมากกว่า และแจ้งภาคีอื่นทราบ ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ความตกลงมีผลใช้บังคับ อีกทั้งจะต้องแจ้ง จะต้องแจ้งทันทีหากมีการเปลี่ยนแปลง
รายละเอียดของหน่วยงานผู้มีอ านาจ ผ่านจุดติดต่อดังกล่าว ทั้งนี้ จะต้องแจ้งหากมีการเปลี่ยนแปลงจุดติดต่อและ 6.9 ภาคีต้องไม่น าบทการระงับข้อพิพาทมาใช้กับบทนี้ โดยภาคีต้องทบทวนการไม่ใช้บทการระงับข้อ
หน่วยงานผู้มีอ านาจ รวมถึงปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยอยู่เสมอ พิพาทหลังความตกลงมีผลใช้บังคับแล้ว 2 ปี โดยในระหว่างการทบทวนจะมีการพิจารณาน าบทการระงับข้อ
5.11 จะไม่มีการน าบทการระงับข้อพิพาทมาใช้กับบทนี้ จะมีการทบทวนหลังความตกลงมีผลใช้บังคับ พิพาทมาใช้กับทั้งหมดหรือบางส่วนของบทนี้ การทบทวนจะต้องแล้วเสร็จภายใน 3 ปีนับจากวันที่ความตกลงมี
แล้ว 2 ปี โดยในระหว่างการทบทวนจะมีการพิจารณาน าบทการระงับข้อพิพาทมาใช้กับทั้งหมดหรือบางส่วนของ ผลใช้บังคับ
บทนี้ การทบทวนจะต้องแล้วเสร็จภายใน 3 ปีนับจากวันที่ความตกลงมีผลใช้บังคับ โดยจะมีการบังคับใช้กับภาคี
ที่มีความพร้อม ส าหรับภาคีที่ยังไม่มีความพร้อม จะหารือกับภาคีอื่นและอาจมีการน ามาบังคับใช้เมื่อเข้าร่วมเป็น
ภาคีอื่นที่มีพันธกรณีที่คล้ายคลึงกัน