Page 35 - วิศวกรรมสาร ปีที่ 75 ฉบับที่ 1 มาราคม - มีนาคม 2565
P. 35

การถอดรื้ออุตสาหกรรมสู่ยานยนต์ไฟฟ้า จาก Automobile สู่ truck และ airplane


                  ส�าหรับเซกเมนต์รถบรรทุก ประเด็น  ได้ในระยะที่สูงขึ้นต่อหนึ่งการชาร์จแบตเตอรี่ พื้นฐานทางวิศวกรรมที่ส�าคัญของกรณีนี้
                แรกที่ผู้ผลิตแต่ดั้งเดิมมองขาดว่ารถ  ก็คือความส�าคัญของความลู่ลมของตัวรถ ข้อเท็จจริงก็คือ เมื่อเทียบกับรถเก๋ง
                บรรทุกไฟฟ้าเป็นไปไม่ได้ ก็คือการมีน�้า  ที่ขับขี่ในเมือง ที่ความลู่ลมมีผลแต่อาจไม่ได้มากนัก ก็เพราะท�าความเร็วไม่ได้มาก
                หนักและปริมาตรของแบตเตอรี่ที่สูง ที่จะ  และมีการหยุดจอดอยู่บ่อยครั้ง ส�าหรับรถบรรทุกสินค้าที่วิ่งในระยะทางไกล และ
                มาเบียดบังน�้าหนักบรรทุกสินค้า กรณีนี้   ท�าความเร็วได้สูง ข้อมูลบ่งชี้ว่าพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อนรถ กว่า 60% ใช้เพื่อ

                ก็เป็นอีกครั้งที่การมองแง่มุมทางวิศวกรรม  เอาชนะแรงต้านจากอากาศ ดังนั้น การแพคชุดขับเคลื่อนไว้ได้ในซุ้มล้อที่กล่าว
                ตามเกมแต่ดั้งเดิมของเครื่องยนต์สันดาป  ไว้ข้างต้นยังมีผลต่อการแพ็คเกจส่วนประกอบอื่น ๆ ท�าให้รถมีรูปร่างภายนอก
                ภายในจะมองเห็นแต่ข้อจ�ากัด แต่เมื่อมอง  ที่ท�าให้ลู่ลมขึ้นได้ด้วย
                จากภาพใหม่หมดของระบบขับเคลื่อน       อีกการออกแบบส�าคัญที่มีผลกระทบต่อความลู่ลมคือกระจังดักลมที่ด้านหน้า
                ทางไฟฟ้า จะพบได้ว่าลักษณะเฉพาะใน   ตัวรถ ข้อเท็จจริงก็คือกับรถแบบดั้งเดิม กว่า 60% ของพลังงานความร้อนจากการ
                ความเป็นโมดูลาร์ของระบบขับเคลื่อน  เผาไหม้เชื้อเพลิงต้องถูกระบายออกไปโดยการมีกระจังหน้าที่ดักลมมาผ่านหม้อน�้า

                ทางไฟฟ้าเปิดโอกาสใหม่ขึ้นมาได้ นั่นคือ  ในกรณีรถไฟฟ้า  ระบบหม้อน�้าก็ยังคงต้องการ  เพื่อระบายความร้อนจากการ
                การส่งก�าลังจากต้นทางคือเครื่องยนต์หรือ  ท�าความเย็นให้แก่ระบบไฟฟ้าก�าลัง  มอเตอร์ และโดยเฉพาะกับชุดแบตเตอรี่
                มอเตอร์ไฟฟ้าถึงปลายทางคือล้อ แต่เดิม  แต่ก็ด้วยความมีประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนทางไฟฟ้า ก็หมายถึงปริมาณความ
                คือส่วนประกอบทางกลไม่ว่าจะเป็นเพลา  ร้อนที่ต้องถูกระบายออกมีค่าน้อยกว่ากรณีรถแบบดั้งเดิมที่ท�างานกับเครื่องยนต์
                ขับหรือชุดเฟืองท้ายดิฟเฟอเรนเชียลที่มี  อยู่มาก มีผลให้การออกแบบช่องเปิดต่างๆ และรูปร่างของตัวรถท�าได้ดีกว่าเดิม

                น�้าหนักและกินพื้นที่ แต่มองรถบรรทุก  ในมุมของความลู่ลมเป็นอย่างมาก ถ้าจะยกตัวอย่างเฉพาะเช่นกับรถบรรทุกเทสล่า
                ในแง่มุมความเป็นอีวีตั้งแต่แรก  ก็มี  เซมิ ได้แสดงถึงรูปทรงที่ลู่ลม มีท้องรถต�่า และมีการเคลมค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน
                บริษัทที่ได้พัฒนาชุดขับเคลื่อนแบบ  จากอากาศที่ต�่ากว่าค่าเฉลี่ยโดยทั่วไปของรถบรรทุกได้กว่า 40%
                transaxle  ที่ผนวกมอเตอร์และชุด      อีกเทคนิคหนึ่ง ที่มีผลส�าคัญต่อรถบรรทุกได้มาก ก็คือการลดการใช้พลังงานจาก
                เฟืองทดไว้ในแพคเกจขนาดจ�ากัดที่ใส่  อุปกรณ์ย่อย ในรถบรรทุกขนาดใหญ่ ต้องมีทั้งปั๊มลมส�าหรับระบบเบรกหรือระบบ
                ในซุ้มล้อได้  ผลลัพธ์ของการออกแบบ  รองรับช่วงล่าง มอเตอร์พวงมาลัยไฟฟ้า รวมไปถึงระบบปรับอากาศ กับรถแบบดั้งเดิม
                ระบบขับเคลื่อนทางไฟฟ้าที่มีลักษณะ  หมายถึงการดึงก�าลังขับมาจากเครื่องยนต์โดยตรง ซึ่งไม่เพียงคือการใช้พลังงานจ�านวน

                โมดูลาร์เช่นนี้ ก็ท�าให้ตัวรถมีพื้นที่บรรจุ  มาก แต่ในหลายกรณี คือการท�างานขณะรถหยุดจอด ซึ่งหมายถึงการติดเครื่องเดินเบา
                แบตเตอรี่เป็นแผงใหญ่อย่างไม่มีอะไร  เป็นการเฉพาะเพื่อขับเคลื่อนอุปกรณ์ย่อยเหล่านี้ ซึ่งหมายถึงทั้งการกินพลังงานและการ
                กีดขวาง ลดพื้นที่สูญเปล่าไปได้ อย่าลืมว่า  ปล่อยมลพิษที่สูง การใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนอุปกรณ์ย่อยเหล่านี้ช่วยลดพลังงาน
                การท�างานเพื่อขับถอยหลังก็ดี  คลัทช์  ที่ใช้ได้อาจมากถึง 75% เทียบกับรถแบบดั้งเดิม และอีกแง่มุมต่อการเพิ่มประสิทธิภาพ
                เพื่อการออกตัวจากรอบเครื่องเดินเบาก็ดี   ก็คือถ้ามองย้อนกลับไปถึงการมีมอเตอร์แยกขับเคลื่อนที่แต่ละซุ้มล้อ ในมุมของ

                เป็นสิ่งที่ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าท�าได้โดยไม่ต้อง  มอเตอร์ไฟฟ้า  นั่นหมายถึงการแบ่งกระแสลงเป็นสัดส่วนตามจ�านวนล้อขับ
                การส่วนประกอบทางกลที่มีน�้าหนักและมี  ซึ่งเมื่อทบทวนว่าการสูญเสียทางไฟฟ้าขึ้นกับค่ากระแสยกก�าลังสอง การ package
                ความซับซ้อนสูง                     ส่วนประกอบเช่นนี้จึงให้ผลเพิ่มประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนไปได้อีกทาง
                  เรื่องราวข้างต้น เล่าถึงแง่มุมวิศวกรรม    จากหลายแง่มุมทางวิศวกรรมข้างต้น บางคนอาจถามว่าแล้วท�าไมผู้ผลิตถึงไม่
                ที่พลิกจากการจัดวางแบบเดิม ๆ มาคิดใหม่  พัฒนารถกระบะไฟฟ้าตั้งนานแล้วล่ะ ก็ต้องบอกว่าก่อนหน้าที่การพัฒนาทางวิศวกรรม
                ในความเป็นระบบขับเคลื่อนทางไฟฟ้า ให้ใส่  ข้างต้นจะมาเสริมแรงให้เกิดรถบรรทุกไฟฟ้าได้ในวันนี้ ต้องรอการสุกงอมของสอง

                แบตเตอรี่ได้สะดวกและไม่กินพื้นที่ อีกส่วน  เรื่องส�าคัญ คือเรื่องต้นทุนจมของบริษัทผู้ผลิตและเรื่องแบตเตอรี่ โดยเรื่องแรกคือ
                หนึ่งของแง่มุมทางวิศวกรรมที่ส�าคัญไม่แพ้กัน   เรื่องต้นทุนจมนั้น ส�าหรับบริษัทผู้ผลิตยานยนต์ ทุกการออกแบบและทุกชิ้นส่วนย่อย
                คือจะท�าอย่างไรให้ใช้พลังงานน้อยลง  ในตัวรถเท่ากับต้นทุนที่ได้ลงไป หรือที่เรียกว่าต้นทุนจม ดังนั้นในทุกแง่มุม ผู้ผลิตจะ
                ต่อระยะการวิ่ง ซึ่งก็จะหมายถึงการต้องแบก  พยายามอย่างที่สุดในการใช้ซ�้าในการออกแบบหรือชิ้นส่วน ทั้งนี้ก็เพื่อคืนทุนหรือท�า
                แบตเตอรี่ในปริมาณน้อยลง หรือวิ่งส่งสินค้า  ก�าไรจากต้นทุนจมเหล่านั้น ดังนั้นการจะมาผลิตรถกระบะไฟฟ้า ถ้าจะต้องรื้อใหม่หมด



                                                                                    ปีที่ 75 ฉบับที่ 1 มกราคม-มีนาคม 2565  วิศวกรรมสาร 35
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40