Page 42 - เอกสารคำสอนทวารวดี - ศรีวิชัย
P. 42

2.2.6  แนวคิดของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สฤษดิ์พงศ์ ขุนทรง
                              เมื่อไม่นานมานี้ผู้เขียนได้น าเสนอผลการศึกษาเกี่ยวกับเศรษฐกิจการค้าของรัฐทวารวดี

                       ที่จะเติบโตขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 12 โดยมีความเห็นว่าการก่อตัวของรัฐทวารวดีนั้นอันที่
                       จริงแล้วเป็นผลมาจากการติดต่อค้าขายกันอย่างเป็นล ่าเป็นสันของประเทศต่างๆ ในช่วง

                       ก่อนหน้า โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดเส้นทางสายไหมทางทะเล (maritime silk road) แม้ว่าจะไม่
                       สามารถปฏิเสธได้ถึงบทบาทของวัฒนธรรมอินเดียและแนวคิด Indianization แต่แรง

                       ขับเคลื่อนหลักอีกประการหนึ่งนั้นคงมาจากการขยายตัวทางการเมืองและเศรษฐกิจของ
                                                                                               22
                       ประเทศจีนนับตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น ตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกของพุทธศตวรรษที่ 5
                              ราชวงศ์ฮั่นและราชวงศ์ต่อมาๆ ของจีนนั้นพยายามขยายอ านาจลงมาควบคุมพื้นที่ตอน

                       เหนือของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บริเวณอ่าวตังเกี๋ยประเทศเวียดนามในปัจจุบัน นอกจาก
                       ยึดครองอยู่เป็นระยะๆ แล้วยังได้สร้างเมืองท่าค้าขายขึ้นเพื่อควบคุมการค้าทางทะเลด้วย

                       ทั้งเมืองกว่างโจว (กวางตุ้ง) และเมืองฮานอย สินค้าที่จีนต้องการนั้นเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยจาก
                       นานาประเทศ (เครื่องหอม เครื่องเทศ ของป่า อัญมณี ฯลฯ) ดังนั้นปริมาณการค้าระหว่างจีนกับ

                       ประเทศต่างๆ (ที่ขึ้นอยู่กับนโยบายในแต่ละราชวงศ์) จึงส่งผลต่อการเติบโตของชุมชนในเอเชีย
                       ตะวันออกเฉียงใต้ที่ตั้งอยู่ระหว่างทางจากอินเดียไปจีน (หรือในทางกลับกัน) นั่นเอง

                              ไม่เพียงแต่การติดต่อค้าขายสินค้าฟุ่มเฟือยเท่านั้น แต่พุทธศาสนาก็มีส่วนส าคัญอย่าง
                       มากในเส้นทางการค้านี้ เพราะจีนนั้นเริ่มนับถือพระพุทธศาสนา มีการขยายตัวของชุมชนชาว

                       พุทธในหลายพื้นที่ของประเทศจีน ราชส านักจีนในบางราชวงศ์ (โดยเฉพาะราชวงศ์เหลียง)
                       ก็สนับสนุนพุทธศาสนา จึงมีการสั่งสิ่งของเครื่องใช้ทางพุทธศาสนาไปจากประเทศแม่คืออินเดีย

                       ขณะเดียวกันก็อัญเชิญพระภิกษุหรือนักปราชญ์ทางพุทธศาสนาจากอินเดียให้เข้าเดินทางเข้าไป
                       เผยแผ่พระธรรมค าสอน ณ ประเทศจีนอีกด้วย การเดินทางของภิกษุอินเดียนั้นก็ต้องพึ่งพา

                       อาศัยพ่อค้านักเดินเรือและจ าต้องแวะพักตามเมืองท่าหลายแห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
                       ดังนั้นพุทธศาสนาจึงได้แพร่หลายอยู่ในดินแดนแถบนี้ด้วย (ดังได้พบจารึกและงานศิลปกรรม

                       อันสอดคล้องกับแนวคิดของปิแอร์ ม็องแก็ง ที่กล่าวแล้วข้างต้น)
                              ดังนั้นในการศึกษาเรื่องการแพร่หลายของวัฒนธรรมอินเดียในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

                       และเรื่องสมัยหัวเลี้ยวประวัติศาสตร์ในประเทศไทย จึงจ าเป็นจะต้องเข้าใจบริบทด้านการค้าและ
                       ศาสนาที่เกิดขึ้นบนเส้นทางสายไหมทางทะเลในช่วงพุทธศตวรรษที่ 5 - 11 ซึ่งมีความเกี่ยวข้อง

                       กับนานาประเทศ ทั้งอินเดีย (และศรีลังกา) จีน ตะวันออกกลาง (เปอร์เซีย) และโรมัน

                       2.3  หลักฐานการติดต่อค้าขายในระยะแรกเริ่มบนเส้นทางสายไหมทางทะเล

                              ความส าคัญของเส้นทางสายไหมทางทะเลมีข้อมูลปรากฏอยู่ในเอกสารของจีนในสมัย

                       ราชวงศ์ต่างๆ ซึ่งกล่าวถึงการเดินทางของคณะทูตจากจีนไปติดต่อสัมพันธ์กับบางประเทศใน






                                                               36
   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47