Page 73 - เอกสารคำสอนทวารวดี - ศรีวิชัย
P. 73
ส ำหรับค ำว่ำ “มคธรำฐ” นั้นหมำยถึงประเทศอินเดียในสมัยโบรำณ สมเด็จฯ กรมพระยำ
ด ำรงรำชำนุภำพทรงสันนิษฐำนว่ำ เดิมทีพุทธศำสนำลัทธิหีนยำนหรือเถรวำทในสมัยพระเจ้ำ
อโศกมหำรำชแห่งรำชวงศ์โมริยะของอินเดีย ได้มำประดิษฐำนที่เมืองนครปฐมเป็นแห่งแรก
พระปฐมเจดีย์และศิลำธรรมจักรคือหลักฐำนที่แสดงให้เห็นถึงรูปแบบและคติอันเก่ำแก่ย้อนไปถึง
20
ในสมัยพระเจ้ำอโศก จึงเป็นกำรตอกย ้ำข้อสันนิษฐำนของพระองค์ที่มีมำตั้งแต่ พ.ศ. 2459
ที่ว่ำ ดินแดน “สุวรรณภูมิ” ซึ่งเอกสำรโบรำณกล่ำวว่ำพระเจ้ำอโศกมหำรำชส่งสมณทูตมำเผยแผ่
21
พระศำสนำในช่วงพุทธศตวรรษที่ 3 ตั้งอยู่ในสยำมประเทศ
ศำสตรำจำรย์เซเดส์ยังคงท ำงำนอย่ำงต่อเนื่อง ผลจำกกำรค้นคว้ำด้ำนจำรึกในปี พ.ศ.
2472 น ำไปสู่ข้อเสนอเรื่อง “กรุงทวำรวดี” ว่ำมีเมืองส ำคัญได้แก่ เมืองลพบุรี กรุงศรีอยุธยำ
รำชบุรี และนครปฐม อันเป็นสถำนที่ค้นพบพระพุทธรูปที่มีแบบศิลปะคล้ำยกับพระพุทธรูป
22
อินเดียสมัยคุปตะ จึงก ำหนดอำยุอยู่ในรำว พ.ศ. 1000 - 1200 (พุทธศตวรรษที่ 11 - 13) จำรึก
ที่พบส่วนใหญ่เป็นภำษำมอญโบรำณ (จำรึกจำกเมืองลพบุรี และจำรึกถ ้ำฤำษีเขำงู จังหวัด
รำชบุรี) ศำสตรำจำรย์เซเดส์จึงกล่ำวว่ำ “จ าเป็นที่จะต้องมีพวกมอญอาศัยอยู่ในลุ่มแม่น ้า
23
เจ้าพระยานั้นแล้ว”
3.1.3 โบราณคดีมอญแห่งอาณาจักรทวารวดี
กำรศึกษำโบรำณคดีและประวัติศำสตร์ศิลปะทวำรวดีได้รับควำมสนใจอย่ำงจริงจัง
ภำยหลังจำกกำรตีพิมพ์หนังสือส ำคัญเรื่อง โบรำณคดีมอญแห่งอำณำจักรทวำรวดี
(L’archéologie mône de Dvaravati) แต่งโดยศำสตรำจำรย์ปิแอร์ ดูปองต์ (Pierre Dupont)
ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2502
ศำสตรำจำรย์ดูปองต์เดินทำงเข้ำมำส ำรวจในประเทศไทยโดยให้ควำมสนใจเป็นพิเศษ
กับเมืองนครปฐมและเมืองศรีมโหสถ จังหวัดปรำจีนบุรี แต่งำนของท่ำนเกือบทั้งหมดก็มีขึ้นที่
เมืองนครปฐมโบรำณ โดยท ำกำรขุดศึกษำโบรำณสถำนวัดพระเมรุและเจดีย์จุลประโทน
(ในขณะนั้นก ำหนดเรียกว่ำวัดพระประโทณ)
เดิมวัดพระเมรุมีสภำพเป็นเนินดินขนำดใหญ่ ภำยหลังจำกกำรขุดแต่งในระหว่ำงวันที่
25 มกรำคม – 21 พฤษภำคม พ.ศ. 2482 และเสร็จสิ้นลงในอีกปีถัดมำ (ภำพที่ 33) จึงได้พบกับ
อำคำรก่ออิฐมีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อเก็จ (หรือยกเก็จ) มีขนำดกว้ำงยำวด้ำนละเกือบ 70
เมตร ลักษณะเด่นคือ มีแกนกลำงรองรับเครื่องบนที่เป็นสถูปเจดีย์ ตรงกลำงด้ำนของแกนกลำง
นี้มีฐำนส ำหรับประดิษฐำนพระพุทธรูปประทับนั่งห้อยพระบำทขนำดใหญ่ 4 องค์ มีระเบียง
ทำงเดินโดยรอบแกนกลำงนี้ และมีซุ้มรำยรอบจ ำนวน 16 ซุ้ม ส่วนนอกสุดมีลักษณะเป็นมุขยื่น
ออกไป 8 มุขซึ่งมีอัฒจันทร์และบันไดน ำขึ้นสู่ภำยในอำคำร
24
67