Page 12 - ข่าวเนติบัณฑิตยสภา เดือนมิถุนายน ๒๕๖๘ ปีที่ ๓๘ ฉบับที่ ๔๓๑
P. 12

ราชำอาณาจ้ั กร  ทรงไว้ ซึ่้� งพระอำานาจ้ท้� จ้ะติรา   ทรงผนวชำเป็นสาม่เณรในปี พ.ศ. ๒๔๘๓ เม่ื�อทรงบัรรลุ้
          "พระบััญชำาสม่เด้็จ้พระสังฆ่ราชำ" (๔)   ในกิจ้การ  พระนิติิภาวะจ้้งทรงผนวชำเป็นพระภิกษุ  ทรงได้้รับั
          คณะสงฆ่์  ติราบัเท่าท้�พระบััญชำาไม่่ข่ัด้หรือแย้ง  พระราชำทานสม่ณศักด้ิ�ม่าติาม่ล้ำาด้ับั  จ้นถื้งสม่เด้็จ้
          กั บั ก ฎิ ห ม่ าย  พระธรร ม่วิ นั ย  แ ล้ ะก ฎิม่ หาเ ถื ร  พระราชำาคณะในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ แล้ะได้้รับัพระราชำทาน
          สม่าคม่  ทั�งยังทรงด้ำารงติำาแหน่งประธานกรรม่การ  สถืาปนาเป็นสม่เด้็จ้พระสังฆ่ราชำ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ (His
          ม่หาเถืรสม่าคม่โด้ยติำาแหน่ง  (๕)   ม่้บัทบัาทสำาคัญ  Holiness was born with the given name Amphon
                                                   (๖)
          ในการบัริหารกิจ้การคณะสงฆ่์ร่วม่กับัม่หาเถืรสม่าคม่   Prasatthapong on June 26, 1927, in Ratchaburi
          (According to the Sangha Act B.E. 2505 (1962),  Province. He is one of nine siblings. Deeply devoted
          the  Supreme  Patriarch  holds  the  position  of  to Buddhism, he was ordained as a novice monk in
          "Sangha Supreme Head" as the highest leader of  1940. Upon reaching adulthood, he was ordained
          the Thai Sangha. His Holiness has the authority to  as  a  Buddhist  monk.  He  received  successive
          command the Sangha throughout the kingdom and  ecclesiastical titles over the years, attaining the
          possesses the power to issue "Supreme Patriarchal  rank of Somdet Phra Racha Khana in 2009, and
          Orders" regarding Sangha affairs, provided that  was formally appointed as the Supreme Patriarch
          such  orders  do  not  conflict  with  the  law,  the  in 2017.)
          Buddhist discipline, or the regulations of the
          Sangha Supreme Council. He also serves as the ex   ๔. ต่ำาแหน่งสำมเด็จัพ่ระสำันต่ะปาปา
          officio President of the Sangha Supreme Council,
          playing a key role in the administration of Sangha      สม่เด้็จ้พระสันติะปาปาเป็นบัิชำอปแห่งกรุงโรม่
          affairs in collaboration with the Council.)  แล้ะเป็นผ่้นำาข่องศาสนจ้ักรโรม่ันคาทอล้ิก  ซึ่้�งเป็น
                                                       นิกายท้�ใหญ่ท้�สุด้ข่องศาสนาคริสติ์  พระองค์ทรงได้้
          ๓. พ่ระประวัต่ิสำมเด็จัพ่ระอ่ริยวงศาคต่ญาณ   รับัการยกย่องว่าเป็นผ่้สืบัติำาแหน่งติ่อจ้ากนักบัุญ
          สำมเด็จัพ่ระสำังฆราช่ สำกลมหาสำังฆปริณายก    เปโติร ซึ่้�งเป็นหัวหน้าข่องอัครสาวกข่องพระเยซึ่่ แล้ะ
          (อ่ัมพ่ร อ่มฺพ่โร)                           เชำื�อกันว่าพระคริสติ์ได้้ม่อบัหม่ายให้เป็นผ่้นำาข่อง
              สม่เด้็จ้พระอริยวงศาคติญาณ ม่้พระนาม่เด้ิม่ว่า   ศาสนจ้ักร  สม่เด้็จ้พระสันติะปาปาทรงพระอำานาจ้
          อัม่พร ประสัติถืพงศ์ ประส่ติิเม่ื�อวันท้� ๒๖ ม่ิถืุนายน พ.ศ.   ส่งสุด้ในด้้านความ่เชำื�อ ศ้ล้ธรรม่ ระเบั้ยบัวินัย แล้ะการ
          ๒๔๗๐ ท้�จ้ังหวัด้ราชำบัุร้ ม่้พ้�น้องร่วม่พระชำนกพระชำนน้  ปกครองภายในศาสนจ้ักรคาทอล้ิก นอกจ้ากบัทบัาททาง
          รวม่ ๙ คน พระองค์ทรงเล้ื�อม่ใสในพระบัวรพุทธศาสนา   ศาสนาแล้้ว  สม่เด้็จ้พระสันติะปาปายังทรงเป็นประมุ่ข่

         (๔)  พระราชำบััญญัติิคณะสงฆ่์ พ.ศ. ๒๕๐๕ ม่าติรา ๘.
         (๕)  พระราชำบััญญัติิคณะสงฆ่์ พ.ศ. ๒๕๐๕ ม่าติรา ๑๒ วรรคหน้�ง.
         (๖)  พระราชำบััญญัติิคณะสงฆ่์ พ.ศ. ๒๕๐๕ ม่าติรา ๑๙.


   12       ข่่าวเนติิบััณฑิิติยสภา
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17