Page 92 - ทวารวดี ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล
P. 92
อยู่ว่าคนโดยสารทั้งหลายจะถึงความตายเพราะด้วย
ภัยอยู่โดยเร็วที่สุดแล้ว เกรงว่าเรือจะบรรทุกสิ่งของ
อยู่หนักเกินไป เขาจึงขนเอาสินค้าที่ใหญ่โตรุงรัง
ทั้งหลายทิ้งลงในน ้าหมด
ดุจเดียวกันฟาเหียนก็ได้เอากุณฑิกา
(หม้อน ้ามีพวย) และชามอ่างซักผ้าของตนกับสิ่งของ
อย่างอื่นอีกบ้างทิ้งลงไปในทะเล แต่ (ก็ยัง) เกรงว่า
นายพาณิชจะเอาสมุดคัมภีร์และพระพุทธรูปที่ยัง
เหลืออยู่บนเรือทิ้งเสียอีก ฟาเหียนได้รวบรวม
ความรู้สึกในใจทั้งหมดให้ระลึกถึงไปโดยเฉพาะต่อ
พระกวันซิยิน (กวนอิม) และมอบชีวิตของตนไว้
(ในความคุ้มครอง) ต่อวิหารแห่งประเทศฮั่น (และ
อธิษฐานว่า) “ข้าพเจ้าได้เดินทางไกลไปเสาะแสวงหา
พระธรรมมาแล้ว ภยันตรายที่น่าพึงกลัวอันจะบังเกิด
ขึ้นต่อไปด้วย (อ านาจ) เหนือความเป็นธรรมดาของ
พระองค์นั้น ได้โปรดให้ข้าพเจ้ารอดพันจากความ
พลัดพรากจากถิ่นฐานกลับไปสู่ที่พ านักของข้าพเจ้า
70
(ด้วยเถิด)”...”
จากบันทึกจะเห็นได้ว่า การเดินเรือของพ่อค้าซึ่ง “ด้วยความ
71
ประสงค์ที่จะไปขายของที่กวางเจา” ไม่เพียงแต่น าสินค้าไปด้วยเท่านั้น
แต่ยังน าพาพระภิกษุพร้อมด้วยพระพุทธรูปและพระคัมภีร์จากอินเดียไปยัง
แผ่นดินจีน ข้อมูลนี้น่าจะท าให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นถึงเหตุแห่งการปรากฏขึ้นของ
พระพุทธรูปศิลปะอินเดียสมัยอมราวดีและคุปตะที่พบในเอเชียตะวันออก
72
เฉียงใต้ รวมถึงแผ่นภาพสลักพระพุทธรูปที่มีอิทธิพลศิลปะอมราวดีจาก
73
เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ซึ่งก าหนดอายุอยู่ในช่วงราวพุทธศตวรรษที่ 11
81