Page 52 - คู่มือการดำเนินงานขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จในการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
P. 52
ผักและผลไม้สดจะมีเอนไซม์ที่เป็นตัวช่วยย่อยอำหำรให้เป็นโมเลกุลที่เล็กที่สุดเข้ำสู่กระแสเลือด
ไปใช้ประโยชน์ในร่ำงกำยอย่ำงมีประสิทธิภำพมำกที่สุด และเร่งปฏิกิริยำกำรย่อยอำหำรให้สมบูรณ์ เพรำะเอนไซม์
หลำยชนิดเป็นเอนไซม์ที่ร่ำงกำยไม่สำมำรถสร้ำงขึ้นมำได้ จึงต้องได้รับจำกกำรรับประทำนผักผลไม้เท่ำนั้น
เอนไซม์บำงชนิดยังช่วยเปลี่ยนอนุมูลอิสระเป็นน�้ำและออกซิเจน บำงชนิดช่วยเผำผลำญพลังงำน สลำยไขมัน
และก�ำจัดสำรพิษในร่ำงกำย
นอกจำกนี้ หำกสังเกตเนื้อหำในตอนท้ำยของย่อหน้ำจะพบว่ำ เนื้อหำที่ปรำกฏยังสนับสนุน
ใจควำมส�ำคัญของย่อหน้ำนี้ให้ชัดเจนขึ้นด้วย ดังเห็นได้จำกข้อควำม “เอนไซม์บำงชนิดยังช่วยเปลี่ยนอนุมูลอิสระ
เป็นน�้ำและออกซิเจน บำงชนิดช่วยเผำผลำญพลังงำน สลำยไขมันและก�ำจัดสำรพิษในร่ำงกำย” ซึ่งมีลักษณะ
เป็นค�ำส�ำคัญลักษณะที่ ๒ ที่เขียนต่ำงกัน แต่สื่อควำมหมำยเหมือนกัน ปรำกฏซ�้ำ ๆ คือ
(๑) เอนไซม์บำงชนิดยังช่วยเปลี่ยนอนุมูลอิสระเป็นน�้ำและออกซิเจน
(๒) บำงชนิดช่วยเผำผลำญพลังงำน
(๓) สลำยไขมัน
(๔) ก�ำจัดสำรพิษในร่ำงกำย
สัมพันธ์กับเนื้อหำ “. . .ไปใช้ประโยชน์ในร่ำงกำยอย่ำงมีประสิทธิภำพมำกที่สุด และเร่งปฏิกิริยำ
กำรย่อยอำหำรให้สมบูรณ์” ในใจควำมส�ำคัญที่ปรำกฏตอนต้นย่อหน้ำ
ค�ำตอบของแบบฝึกหัดข้อนี้จึงตอบข้อ ๒) ผักและผลไม้สดมีเอนไซม์ช่วยย่อยสำรอำหำร
ไปใช้ประโยชน์ในร่ำงกำย
๑๓. องค์กำรนำซำกล่ำวถึงกำรค้นพบดำวเครำะห์นอกระบบสุริยะจำกกำรส่งยำนอวกำศไปส�ำรวจดำวเครำะห์
ที่มีขนำดใกล้เคียงกับโลกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๒ ยำนอวกำศดังกล่ำวจะมองหำดำวฤกษ์และดวงดำวที่อยู่ใกล้ ๆ
กำแล็กซีทำงช้ำงเผือกของเรำ กำรค้นพบครั้งใหม่นี้สร้ำงควำมตื่นเต้นให้แก่นักดำรำศำสตร์เป็นอย่ำงมำก
เนื่องจำกบรรดำดวงดำวที่ค้นพบทั้ง ๑๐ ดวง ซึ่งมีขนำดและอุณหภูมิใกล้เคียงกับโลก เอื้อต่อกำรอยู่อำศัยของสิ่งมีชีวิต
ข้อใดคือใจควำมส�ำคัญของข้อควำมข้ำงต้น (O-NET ม.๓)
๑) กำรค้นพบครั้งนี้เป็นกำรค้นพบครั้งใหม่ซึ่งน่ำตื่นเต้นมำก
๒) ดำวเครำะห์ทั้ง ๑๐ ดวงนี้น่ำจะมีขนำดและอุณหภูมิใกล้เคียงกับโลก
๓) ข้อมูลกำรค้นพบดำวเครำะห์ได้มำจำกยำนอวกำศขององค์กำรนำซำ
๔) องค์กำรนำซำค้นพบดำวเครำะห์ ๑๐ ดวงนอกระบบสุริยะที่สิ่งมีชีวิตอำจอยู่อำศัยได้
๑๔. ข้อใดเป็นประเด็นส�ำคัญของข้อควำมต่อไปนี้ (O-NET ม.๖)
กำรดับไฟป่ำเป็นกำรต่อสู้ระหว่ำงคนกับไฟ ขณะที่เกิดไฟไหม้ป่ำพนักงำนดับไฟจะต้องพลิกแพลง
วิธีกำรตลอดเวลำ โดยเริ่มควบคุมที่หัวไฟก่อน เพื่อหยุดยั้งกำรลุกลำมของไฟ แล้วจึงกระจำยก�ำลังออกดับไฟ
ทำงปีกทั้งสองด้ำนเพื่อไปบรรจบกันที่หำงไฟ แต่ถ้ำแนวหัวไฟมีควำมร้อนมำกไม่อำจเข้ำถึงได้ อำจเริ่มดับไฟ
จำกปีกทั้งสองด้ำนก่อน แล้วบีบเข้ำหำหัวไฟเพื่อบังคับให้แนวหัวไฟแคบและเล็กลงเรื่อย ๆ วิธีควบคุมไฟ
คือ ใช้พลั่วตักดินหรือทรำยสำดกลบไฟ หรือใช้น�้ำฉีดเพื่อลดควำมร้อนและควำมสูงของเปลวไฟ
จำกนั้นจึงใช้ที่ตบไฟเข้ำไปตบ และคลุมไฟจนดับ
๑) สถำนกำรณ์ไฟป่ำ ๒) กลยุทธ์ในกำรดับไฟป่ำ
๓) กำรต่อสู้ระหว่ำงคนกับไฟ ๔) ควำมเสี่ยงของนักผจญเพลิง
๕) วัสดุอุปกรณ์ส�ำหรับดับไฟป่ำ
46 คู่มือการดำาเนินงานขับเคลื่อนสู่ความสำาเร็จ
ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕