Page 11 - โครงการพัฒนาเครื่องมือสนับสนุนการดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาวะในองค์กรอย่างยั่งยืน
P. 11
กิจกรรมที� 1
การร่วมพัฒนาแผนเชิิงกลยุทธ์์และเครื�องมือวิจัยแบบสำารวจ
(Survey Development)
• งานวิจัยเชีิงคุณภาพ • งานวิจัยเชีิงปริมาณ
(Qualitative Research): (Quantitative Research):
ทางคณะวิจัยจะดำาเนินการสัมภาษณ์เชีิง ทางคณะวิจัยจะพัฒนาการใชี้เครื�องมือ
ลึกกับกลุ่มเป้าหมายและผ้้รับประโยชีน์ที�เหมาะ แบบสำารวจ/แบบสอบถึามสุขภาวะองค์กร
สม ทั�งในระดับ Strategic และ Boundary ทั�งระบบออนไลน์และออฟไลน์/ลงพื�นที�ในการ
Partners ได้แก่ องค์กรภาคธุรกิจเอกชีน อาทิ เก็บข้อม้ลจากการทำาแบบสำารวจ/แบบสอบถึาม
สถึานประกอบการ/บริษัทเอกชีน โดยกลุ่ม กับกลุ่มเป้าหมายและผ้้รับประโยชีน์ที�เหมาะสม
ตัวอย่างจะประกอบด้วย ผ้้บริหารระดับส้ง ทั�งในระดับ Strategic และ Boundary Partners
ผ้้จัดการ พนักงาน และผ้้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ องค์กรเอกชีนและภาคธุรกิจ อาทิ สถึาน
ขององค์กรและภาคีเครือข่ายที�มีบทบาทสำาคัญ ประกอบการ/บริษัทเอกชีน ประกอบด้วย ทีม
กับองค์กร เพื�อศึกษาประเด็นด้านสุขภาวะ ผ้้บริหารระดับส้ง ผ้้จัดการ พนักงาน และ
องค์กรรวมทั�งบริบทขององค์กรต่อการพัฒนา ผ้้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ ขององค์กรและ
สุขภาวะที�ดี และเพื�อพัฒนาเครื�องมือวัดสุขภาวะ ภาคีเครือข่ายจำานวน 1,089 ราย และการวิเคราะห์
องค์กร และความเชีื�อมโยงกับเป้าหมายเพื�อการ ข้อม้ลของกลุ่มเป้าหมายโดยใชี้สถึิติขั�นส้ง
พัฒนาอย่างยั�งยืนขององค์การสหประชีาชีาติ เพื�อศึกษาชีี�วัด/ตัวแปรที�สำาคัญต่อการพัฒนา
(UN SDGs) อย่างน้อย 32 ราย สุขภาวะองค์กรอย่างยั�งยืน
• นอกจากนี� ทางคณะวิจัยจะพัฒนาค้่มือแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื�อแนะนำาวิธีการทำาแบบสำารวจ
ให้กับองค์กรเอกชีนและบุคลากร/พนักงานในองค์กร เพื�อให้ผ้้เข้ามาใชี้งานระบบได้เข้าใจถึึงวิธีการ
อย่างถึ้กต้อง และ e-book ที�นำาเสนอผลการศึกษาวิจัยของโครงการทั�งในระดับบุคคลและองค์กร อีกทั�ง
ยังชี่วย สสส. ประชีาสัมพันธ์โครงการแบบทดสอบสำาหรับการประเมินสุขภาวะทั�งในระดับบุคคลและ
องค์กร โดยจัดให้มีการแถึลงข่าวและจัดการประชีุม Press Conference เพื�อนำาเสนอความสำาเร็จของ
โครงการพัฒนาด้านสุขภาวะองค์กรในภาคเอกชีนนี� ให้เป็นที�ร้้จักอย่างกว้างขวาง และเกิดการใชี้งานจริง
เพื�อจะมีการต่อยอด scale up อย่างยั�งยืนในอนาคต
วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล 11
ลิขสิทธิ ์ © รศ.ดร.สุภรักษ์ สุริยันเกียรติแก้ว และคณะวิจัย College of Management Mahidol University