Page 79 - วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2566
P. 79

74
 74                                                        75
                                                           75

 test speed 1.0 mm/s, return speed 10.0 mm/s,      2.3 วิเคราะห์คุณภาพทางประสาทสัมผัส    กับงานวิจัยของสุวรนี และปิยาพัชร (2565) รายงานว่า  ขิงยังมีผลทางคลินิก ได้แก่ ช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน
 trigger load 5.0 g (ดัดแปลงจาก Nguyen et al., 2013)   น าผลิตภัณฑ์ปลาซิวแก้วแผ่นอบกรอบ ขนาด   เมื่อปริมาณแป้งมันส าปะหลังเพิ่มขึ้น ส่งผลท าให้ปลาเส้น  ช่วยในการท างานของระบบทางเดินอาหาร บรรเทาความ
 บันทึกผลการทดสอบ 3 ซ้ า รายงานผลเป็นค่าความแข็ง   30x50 มิลลิเมตร ตัวอย่างละ 3 แผ่น มาทดสอบคุณภาพ  จากปลาช่อนมีค่าสีที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่งานวิจัยของอารียา   เจ็บปวด การอักเสบ กลุ่มอาการเมตาบอลิซึม และอาการ
 (Hardness) และความกรอบ (Fracturability) ค่าแรงกด  ทางด้านประสาทสัมผัสด้วยผู้บริโภคทั่วไปที่ไม่ผ่านการ  และเสาวนีย์ (2561) พบว่าเมื่อปริมาณแป้งมันส าปะหลัง  อื่น ๆ เป็นต้น (Anh et al., 2020) สุเมธ และคณะ (2555)
 ที่วัดได้หน่วยเป็นกรัม (g)   ฝึกฝน จ านวน 30 คน เพื่อประเมินคุณลักษณะทางด้าน  เพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบเฉพาะค่าความสว่างเพิ่มมากขึ้น   ท าการทดลองผลิตปลาก้างนิ่มสมุนไพรพร้อมบริโภคระดับ
    2.2 วิเคราะห์ทางเคมี    ประสาทสัมผัส ด้านสี กลิ่น รสชาติ เนื้อสัมผัส และ  แต่ค่าสีแดงและสีเหลืองลดลง จากผลการศึกษาแสดงให้  อุตสาหกรรม พบว่าเครื่องปรุงผงกะหรี่ที่มีส่วนประกอบ
     2.2.1 วิเคราะห์พลังงานทั้งหมด โดย  ความชอบโดยรวม โดยวิธี 9-point hedonic scale (1   เห็นว่าเมื่อปริมาณของปลาซิวแก้วลดลง และปริมาณของ  หลักคือ ลูกผักชี 30 เปอร์เซ็นต์ สามารถกลบกลิ่นคาวปลา
 ใช้ Calorie’s conversion factor ของ Atwater ค านวณ  คือไม่ชอบมากที่สุด และ 9 คือชอบมากที่สุด) และน าสูตร  แป้งมันส าปะหลังเพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อค่าความ  นวลจันทร์ได้ดี โดยสัดส่วนที่ใช้ ประกอบด้วย น้ าหนักปลา
                      *
                                *
                                             *
 โดยใช้ค่า conversion factor ส าหรับ Protein, Carbo-   ที่ได้รับความชอบมากที่สุดไปทดสอบการยอมรับของ  สว่าง (L ) ค่าสีแดง (a ) และสีเหลือง (b ) ที่เพิ่มมากขึ้น   นวลจันทร์/ตัว: ผงกะหรี่: เกลือแกง เท่ากับ 99.13: 0.55:
 hydrates และ Fat เท่ากับ 4, 4 และ 9 kcal/g ตามล าดับ   ผู้บริโภค กลุ่มเป้าหมายเป็นบุคคลทั่วไปจ านวน 150 คน   (ภาพที่ 1 และภาพที่ 2) โดยการที่ค่าความสว่าง ค่าสี  0.33 เปอร์เซ็นต์ ตามล าดับ และเครื่องปรุงรสกระเทียม
 ในการค านวณจากสูตร (Charrondiere et al., 2004)   โดยวิธี 9-point hedonic scale (1 คือไม่ชอบมากที่สุด   เหลืองและสีแดงเพิ่มขึ้นนั้น อาจเนื่องมาจากโปรตีนใน  พริกไทยส าเร็จรูป  (มีเกลือ  พริกไทย  และซีอิ๊วเป็น
    2.2.2 วิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมี  และ 9 คือชอบมากที่สุด)   ปลาและในเม็ดแป้ง เมื่อได้รับความร้อนท าให้เกิดปฏิกิริยา  ส่วนผสม) สามารถกลบกลิ่นคาวปลายี่สกได้ดีมาก  โดย
 โดยประมาณ (Proximate analysis) ของตัวอย่างปลาซิว     กับน้ าตาลรีดิวซิง เกิดเป็นปฏิกิริยาเมลลาร์ด (maillard   สัดส่วนที่ใช้ ประกอบด้วย  น้ าหนักปลายี่สก/ตัว: เครื่อง
 แก้วแผ่นอบกรอบ ตามวิธีการของ AOAC (2000) ได้แก่   3. การวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ    reaction) ซึ่งมีผลต่อสีและกลิ่นของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้  ปรุงรสกระเทียมพริกไทยส าเร็จรูป   เท่ากับ 95: 5
 ความชื้น ไขมัน เส้นใยหยาบ เถ้า   และโปรตีน   ท าการวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ โดยใช้  แป้งมันส าปะหลังมีลักษณะที่เป็นผงสีขาวเมื่อผสมกับน้ า   เปอร์เซ็นต์ ตามล าดับ จากงานวิจัยข้างต้นผู้วิจัยเห็นว่า
 (6.25xปริมาณไนโตรเจนทั้งหมด)   โปรแกรม Inmucal-Nutrients V. 3   จากสถาบัน  และได้รับความร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสม ท าให้อะไมโลส  นอกจากแป้งมันส าปะหลังที่มีส่วนในการช่วยลดกลิ่นคาว
    2.2.3 วิเคราะห์ปริมาณคาร์โบไฮเดรต   โภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล (ชญานิษฐ์ และคณะ,   และอะไมโลเพกทินแตกออกเนื่องจากความร้อนท าลาย  ปลาได้นั้น วัตถุดิบอื่น ๆ ก็อาจช่วยลดกลิ่นคาวปลาได้ คือ
 โดยวิธี Calculation by difference (Charrondiere et   2557)   พันธะไฮโดรเจนภายในโมเลกุลของสตาร์ชในเม็ดแป้ง ท า  เกลือ พริกไทย ลูกผักชี และซีอิ๊ว
 al., 2004) จากสูตร คาร์โบไฮเดรต (เปอร์เซ็นต์) = 100–     ให้เกิดการเจลาติไนซ์ (gelatinization)   และเกิดเป็นเจล      จากตารางที่ 2 แสดงค่าความแข็ง และค่าความ
 (ความชื้น(เปอร์เซ็นต์)+ไขมัน(เปอร์เซ็นต์)+เส้นใยหยาบ  4. การวิเคราะห์ทางสถิติ   ของแป้งที่มีความโปร่งแสง (สุทธินี, 2563) Nurul et al.   กรอบของผลิตภัณฑ์ปลาซิวแก้วแผ่นอบกรอบที่ระดับการ
 (เปอร์เซ็นต์)+เถ้า(เปอร์เซ็นต์)+โปรตีน(เปอร์เซ็นต์))   งานวิจัยนี้วางแผนการทดลองแบบ CRD (com-   (2009) รายงานว่าการเพิ่มปริมาณของปลาและลด  เติมแป้งมันส าปะหลังที่แตกต่างกัน พบว่า การเติมแป้งมัน
       2.2.4 วิเคราะห์ปริมาณความชื้น โดย  pletely randomized design)   ส าหรับการตรวจสอบ  ปริมาณของแป้งมันส าปะหลังลงมีผลท าให้ผลิตภัณฑ์ข้าว  ส าปะหลังที่ระดับ 8 เปอร์เซ็นต์ มีค่าความแข็งและความ
                                        *
 ใช้เครื่องส าหรับวิเคราะห์ความชื้น (Thermogravimetric   ทางด้านเคมีกายภาพ ทดลอง 3 ซ้ า และการวางแผน  เกรียบปลามีสีที่เข้มขึ้น โดยมีค่า L ลดลง นอกจากนี้สีของ  กรอบสูงที่สุด โดยค่า Fracturability คือ ค่าความเปราะ
 Analyzer) ยี่ห้อ Leco รุ่น TGA701 ท าการชั่งตัวอย่าง  ทดลองแบบ RCBD (randomized complete block   ปลาซิวแก้วบดมีสีที่ด าคล้ า เนื่องจากในเนื้อปลามี  บางของอาหาร เป็นแรงกดทันทีทันใดในแนวดิ่งที่ท าให้
 ประมาณ 1 กรัม ใส่ลงในภาชนะบรรจุตัวอย่าง อบที่  design) ส าหรับการทดสอบทางประสาทสัมผัสของผู้  องค์ประกอบของไมโอโกลบินและฮีโมโกลบินซึ่งมีปริมาณ  ผลิตภัณฑ์เกิดการแตกหักเป็นชิ้น ๆ และกระจายออกใน
 อุณหภูมิ 105C เป็นเวลา 4–5 ชั่วโมง วิเคราะห์หาความ  ทดสอบทั่วไป วิเคราะห์ความแปรปรวนโดยใช้วิธี One   แตกต่างกันออกไปตามชนิดปลา และเมื่อได้รับความร้อน  แนบราบ โดยทั่วไปหมายถึงอาหารที่มีค่าความแข็งสูง
 แตกต่างของน้ าหนักก่อนอบและหลังอบ   way ANOVA (analysis of variance) เปรียบเทียบความ  จะเกิดปฏิกิริยาเมลลาร์ดและคาราเมลไรเซชันของแป้ง  และมีค่าความสามารถเกาะรวมตัวกันต่ า (ธัญญาภรณ์,
      2.2.5 วิเคราะห์ปริมาณเถ้า โดยใส่  แตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยวิธี DMRT (Duncan' s new   และโปรตีนในเนื้อปลาจะเสียสภาพ (protein denatu-   2550) สอดคล้องกับงานวิจัยของสุวรนี และปิยาพัชร
 ตัวอย่าง 2 กรัมในถ้วยกระเบื้อง (crucible) ด้วยวิธีการชั่ง  multiple-range test)    ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95   ration) ท าให้เปลี่ยนสีเป็นสีน้ าตาล (Kaewmanee et   (2565) รายงานว่าเมื่อปริมาณแป้งมันส าปะหลังเพิ่มขึ้น
 น้ าหนัก น าไปเผาในเตาเผาไฟฟ้าที่อุณหภูมิ 550C   โดยใช้โปรแกรม SPSS version 23.0 (SPSS, Munich,   al., 2015) ดังนั้นเมื่อมีปริมาณปลาลดลงอาจส่งผลให้  พบว่าปลาเส้นจากปลาช่อนมีค่าความแข็ง ความเหนียว
 จนกว่าตัวอย่างจะเป็นสีเทา นาน 1–2 ชั่วโมง จากนั้น  Germany)   ผลิตภัณฑ์มีสีที่สว่างมากขึ้น แต่ในงานวิจัยเรื่องนี้ต้องมี  คล้ายยาง และความยากในการเคี้ยวมากขึ้น (p<0.05)
 น าไปวางให้เย็นในโถดูดความชื้นและชั่งน้ าหนักเถ้าที่     การเติมสีผสมอาหารเข้าไป ซึ่งนอกจากการใช้แป้งมัน  เนื่องจากแป้งเกิดการเจลาติไนเซชัน และเมื่อเย็นตัวลง
 เหลืออยู่ ตามวิธีของ AOAC (2000) methods 900.02   ผลการทดลองและวิจารณ์    ส าปะหลังมาช่วยในเรื่องของสีและการลดกลิ่นคาวปลาใน  เกิดการเรียงตัวเป็นโครงสร้างใหม่ที่แข็งแรงขึ้น (สุทธินี,
 และ 923.03      ผลิตภัณฑ์แล้วนั้น  จิราพร และคณะ (2549) รายงานว่า  2563) Kyaw et al. (2001) รายงานว่าโปรตีนในเนื้อปลา
 2.2.6 วิเคราะห์ปริมาณน้ าอิสระ   1. ผลของการเติมแป้งมันส าปะหลังต่อคุณภาพของ  การใช้น้ าขิงช่วยให้ผลิตภัณฑ์ปลาแผ่นอบแห้งจากปลาโอ  ช่วยในการจัดเรียงโครงสร้างโปรตีนในแป้งท าให้เจลแป้งมี
 (Water activity; aw) ด้วยเครื่อง water activity meter    ผลิตภัณฑ์ปลาซิวแก้วแผ่นอบกรอบ   ลายมีคุณลักษณะด้านกลิ่นและความรู้สึกภายหลังการ  คุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยต้องมีปริมาณของ
 (Novasina model: ms 1, Switzerland)      ที่อุณหภูมิ      จากการศึกษาปริมาณแป้งมันส าปะหลังต่อ  กลืน รวมถึงมีสีสันที่สดใสมากขึ้น เนื่องจากขิงประกอบ   เนื้อปลาที่มากกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นไป ดังนั้นจะเห็นได้
 25C โดยน าปลาซิวแก้วแผ่นอบกรอบมาบดละเอียด ใส่  คุณภาพด้านสี ค่าความแข็งและความกรอบของผลิตภัณฑ์  ด้วยสาร gingerol, shogaol และ zingiberene ที่ช่วยให้  ว่าเมื่อปริมาณแป้งมันส าปะหลังเพิ่มขึ้นจึงมีค่าความแข็ง
 ในภาชนะส าหรับบรรจุตัวอย่าง ประมาณ 2 กรัม จากนั้น  ปลาซิวแก้วแผ่นอบกรอบ แสดงในตารางที่ 2 พบว่า การ  มีรสชาติเผ็ดร้อน zingiberol และ zingiberene ช่วยด้าน  เพิ่มมากขึ้นด้วย
 *
 น าไปวัดค่า aw    เติมแป้งมันส าปะหลังไม่มีผลทางสถิติต่อค่า L  แต่มี  กลิ่นให้มีความหอม (Indiarto et al., 2021) นอกจากนี้
 *
 *
       2.2.7 วิเคราะห์ปริมาณแคลเซียม   แนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ค่า a  และ b   มีค่าสูงขึ้นเมื่อ
 โดยใช้เครื่อง AAS AA-6300 Atomic Absorption   ปริมาณของแป้งมันส าปะหลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยส าคัญทาง
 Spectrophotometer   สถิติ (p<0.05) โดยสูตรที่มีการเติมแป้งมันส าปะหลังที่
 * *
    ระดับ 8 เปอร์เซ็นต์ มีค่า L  a  และ b* สูงที่สุด สอดคล้อง


 วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2566  วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2566
                                    วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2566
 วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2566
   74   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84