Page 81 - วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2566
P. 81

76
                                                           77
 76                                                        77

 ตารางที่ 2 ผลของค่าสี ค่าความแข็งและค่าความกรอบของผลิตภัณฑ์ปลาซิวแก้วแผ่นอบกรอบที่ใส่ปริมาณแป้งมัน   ความชอบที่ใกล้เคียงกัน แต่มีผลต่อด้านกลิ่น รสชาติ เนื้อ  7.07, 7.67, 7.47 และ 7.63 คะแนน ตามล าดับ อยู่ใน
               ส าปะหลังในระดับต่าง ๆ หลังอบด้วยเตาอบไฟฟ้าที่อุณหภูมิ 180C นาน 3 นาที   สัมผัส และความชอบโดยรวมอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ   ระดับความชอบมาก จากนั้นน าสูตรที่ใส่แป้งมันส าปะหลัง
 แป้งมันส าปะหลัง    ค่าสี   ค่าความแข็ง   ค่าการแตกหัก   (p<0.05) โดยปลาซิวแก้วแผ่นอบกรอบที่ใส่แป้งมัน  ร้อยละ 6 ไปทดสอบการยอมรับของผู้บริโภค โดย
 (เปอร์เซ็นต์)   L    a    b      E   (กรัม)   (กรัม)   ส าปะหลังที่ร้อยละ 6 มีคะแนนความชอบในด้านสี กลิ่น   กลุ่มเป้าหมายเป็นบุคคลทั่วไปจ านวน 150 คน พบว่าอยู่
 *ns
 *
 *
 d
 d
 c
 0   31.32±.0.91  6.81±0.32   9.28±0.39      -   91.83±22.37    89.67±26.13    รสชาติ เนื้อสัมผัส และความชอบโดยรวมสูงสุด คือ 8.23,   ในระดับความชอบปานกลาง คือ 7.12 คะแนน
 b
 c
 b
 cd
 c
 2   31.95±0.27  7.30±0.29   10.19±0.60     1.2542  151.50±28.73   104.50±15.89
 a
 c
 bc
 c
 4   32.52±2.14  7.40±0.24   10.26±0.55     1.6250  202.33±38.54   232.50±51.45    ตารางที่ 3 ผลคุณภาพทางประสาทสัมผัสของผลิตภัณฑ์ปลาซิวแก้วแผ่นอบกรอบที่ใส่ปริมาณแป้งมันส าปะหลัง
 b
 a
 b
 ab
 6   32.98±1.01  8.32±0.78   11.77±0.50     3.3520  252.00±31.05   241.33±21.92                  ในระดับต่าง ๆ (n=30)
 a
 a
 a
 a
 8   33.03±0.48  10.35±0.59   14.44±0.14     6.4870  311.67±68.23   290.83±90.07    แป้งมันส าปะหลัง    คุณลักษณะ
                                             ns
 หมายเหตุ : ค่าเฉลี่ย±ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน   (เปอร์เซ็นต์)   สี    กลิ่น   รสชาติ   เนื้อสัมผัส   ความชอบ
 a-d
         ตัวเลขที่อยู่ในคอลัมภ์เดียวกันมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p=0.05)   b  b  b  โดยรวม  b
 ns
      ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ    0   6.37±1.25   6.20±1.52    6.67±1.24    6.67±1.15    6.83±1.02
                                                                                          ab
                                                                            ab
                                                                                                       ab
                                                              ab
                          2              6.57±1.10    6.60±1.33     7.10±1.27     7.00±0.95    7.23±0.82
                                                                            b
                                                              ab
                                                                                          b
                                                                                                       b
                          4              6.37±1.22    6.47±1.43     6.83±1.44     6.70±1.12    7.00±1.14
                                                               a
                                                                            a
                                                                                          a
                                                                                                       a
                          6              8.23±9.11    7.07±1.36     7.67±1.09     7.47±1.07    7.63±0.96
                                                                                          b
                                                              ab
                                                                            b
                                                                                                       b
                          8              6.60±1.25    6.33±1.83     6.43±1.70     6.87±0.97    6.83±1.44
               หมายเหตุ : ค่าเฉลี่ย ± ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
                        a,b
                            ตัวเลขที่อยู่ในคอลัมภ์เดียวกันมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p=0.05)
                                  ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ
                        ns
 (A)   (B)   (C)   (D)
 ภาพที่ 1 ลักษณะปรากฏของปลาซิวแก้วสดก่อน-หลังบด และผลิตภัณฑ์ปลาซิวแก้วแผ่นอบกรอบหลังอบ      ผลการศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของผลิต   การเคลื่อนที่ของน้ า แป้งเมื่อได้รับความร้อนเจลจะเกิด
            โดย (A) ปลาซิวแก้วสด (B) ปลาซิวแก้วสดหลังบด (C) ปลาซิวแก้วสดหลังผสมกับวัตถุดิบอื่น ๆ และ
            (D) ปลาซิวแก้วแผ่นอบกรอบหลังอบ   ภัณฑ์ปลาซิวแก้วแผ่นอบกรอบที่ใส่ปริมาณแป้งมัน  การเรียงตัวใหม่ ท าให้มีความแข็งเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อระดับ
               ส าปะหลังในระดับต่าง ๆ ดังแสดงในตารางที่ 4 พบว่า   ความชื้นที่ลดลง ซึ่งอาหารแห้งเป็นอาหารที่ควรมีค่า aw
               ปริมาณพลังงานทั้งหมด และคาร์โบไฮเดรตเพิ่มสูงขึ้นเมื่อ  น้อยกว่า 0.6 (ปริมาณความชื้นต่ ากว่า 15 เปอร์เซ็นต์)
 ก่อนอบ        ปริมาณแป้งมันส าปะหลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ   เพื่อป้องกันและควบคุมจุลินทรีย์ที่ท าให้อาหารเสื่อมเสีย
               (p<0.05)  ไม่สอดคล้องกับงานวิจัยของ Huda et al.
                                                                ทั้งรายีสต์ และแบคทีเรีย (มผช., 2546) โดยปริมาณ
                (2010) เพราะมีปริมาณของคาร์โบไฮเดรตต่ ากว่า โดย  ความชื้นที่มีในปลาซิวแก้วแผ่นอบกรอบอยู่ในเกณฑ์ที่
               ผลิตภัณฑ์ปลาซิวแก้วอบกรอบที่เติมแป้งมันส าปะหลังที่  เหมาะสมของอาหารแห้งและมีปริมาณที่ใกล้เคียงกับ
               ระดับ 8 เปอร์เซ็นต์ มีคาร์โบไฮเดรตไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์   งานวิจัยของ Nurul et al. (2009), King (2002) และ
 หลังอบ        ซึ่งงานวิจัยเรื่องนี้ระบุว่าข้าวเกรียบปลาที่จ าหน่ายทั่วไปใน  Huda et al. (2010) ที่มีความชื้นในข้าวเกรียบปลาอยู่ที่
                ท้องตลาดมีปริมาณของคาร์โบไฮเดรตอยู่ที่ 54-80    9 เปอร์เซ็นต์, 12 เปอร์เซ็นต์ และ 9-14 เปอร์เซ็นต์
               เปอร์เซ็นต์ เป็นผลจากการที่มีปริมาณของแป้งอยู่ใน  ในขณะที่ปลาแผ่นอยู่ที่ 9-18 เปอร์เซ็นต์ (ณัฐณิชา, 2560)
               ส่วนผสมที่สูง ในขณะที่ปริมาณไขมัน โปรตีน ความชื้น   และข้าวเกรียบกุ้งมีความชื้นอยู่ที่ 13-20 เปอร์เซ็นต์
               เถ้า ปริมาณน้ าอิสระ และแคลเซียมเพิ่มขึ้น เมื่อปริมาณ  (Nguyen et al., 2013)   ศศิมล และอนัญญา (2562)
 A    B    C    D    E    ของปลาซิวแก้วเพิ่มขึ้นแต่ปริมาณของแป้งมันส าปะหลัง  ศึกษาการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารว่างเสริมแคลเซียมจาก
 ภาพที่ 2 ลักษณะปรากฏของผลิตภัณฑ์ปลาซิวแก้วแผ่นอบกรอบ ก่อนอบและหลังอบด้วยเตาอบไฟฟ้าที่อุณหภูมิ 180C    ลดลงอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) สอดคล้องกับ   ปลาซิว พบว่า ผลิตภัณฑ์แคลเซียมสแน็กบอลที่มีส่วนผสม
            นาน 3 นาที (A-E=ปริมาณแป้งมันส าปะหลัง 0 เปอร์เซ็นต์, 2 เปอร์เซ็นต์, 4 เปอร์เซ็นต์, 6 เปอร์เซ็นต์ และ 8   King (2002) และ Nurul et al. (2009) รายงานว่า  ของปลาซิวแก้ว 100 กรัม มีปริมาณแคลเซียม 3,403.99
 เปอร์เซ็นต์ ตามล าดับ)    ปริมาณของโปรตีน ไขมัน และเถ้าเพิ่มขึ้นเมื่อปริมาณปลา  mg/kg และโปรตีน 25.23 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบ
               เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าปลาเป็นแหล่งโปรตีนที่  กับผลิตภัณฑ์ปลาซิวแก้วแผ่นอบกรอบที่มีส่วนผสมของ
               ดีแต่พบน้อยในแป้งมันส าปะหลัง Wang et al. (2013)   ปลาซิวแก้ว 100 กรัม เท่ากัน พบว่า ผลิตภัณฑ์ปลาซิว
 ตารางที่ 3 แสดงผลของการประเมินคุณภาพ  คุณลักษณะทางประสาทสัมผัสด้านสี สอดคล้องกับผลของ  รายงานว่าลักษณะเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์มีผลมาจาก  แก้วแผ่นอบกรอบมีปริมาณของแคลเซียมและโปรตีนที่สูง
 *
 ทางประสาทสัมผัสของปลาซิวแก้วแผ่นอบกรอบที่ใส่  ค่า L  ที่พบว่าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทาง  ชนิดแป้ง ปริมาณโปรตีน ความชื้น และความสามารถใน  กว่า
 ปริมาณแป้งมันส าปะหลังในระดับต่าง ๆ พบว่า การใส่  สถิติ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้บริโภคไม่สามารถแยกความ
 ปริมาณแป้งมันส าปะหลังไม่มีผลต่อระดับความชอบต่อ  แตกต่างของสีในแต่ละตัวอย่างได้อย่างชัดเจนจึงมีระดับ
 วารสารการเกษตรราชภัฏ ปที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2566  วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2566
                                    วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2566
 วารสารการเกษตรราชภัฏ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2566
   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86