Page 135 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 135

ในกรณีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวใช้มาตรการพิเศษแทนการดำเนินคดีอาญาและ
                ศาลได้มีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความตามมาตรา ๙๒ แห่งพระราชบัญญัติศาลเยาวชน

                และครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ หากหัวหน้าพนักงานอัยการ
                เห็นชอบตามคำสั่งศาล ให้มีคำสั่งยุติการดำเนินคดี หากไม่เห็นชอบให้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวเพื่อ
                ยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไป
                

   
 ในกรณีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวเห็นว่าตามพฤติการณ์แห่งคดียังไม่สมควรมีคำพิพากษา
                และศาลได้มีคำสั่งยุติคดีตามมาตรา ๑๓๒ และมาตรา ๑๓๓ แห่งพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและ
                ครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ หากหัวหน้าพนักงานอัยการ

                เห็นชอบตามคำสั่งศาล ให้มีคำสั่งยุติการดำเนินคดี หากไม่เห็นชอบ ให้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว
                เพื่อพิจารณาพิพากษาต่อไป เว้นแต่เป็นคดีต้องห้ามอุทธรณ์
                       (๘)  หนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ อส ๐๐๐๗ (พก)/ว ๓๐๕ ลงวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๘
                เรื่อง หารือปัญหาข้อขัดข้องอันเกิดจากการปฏิบัติตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วย
                การดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๔๗ ข้อ ๕๔ วรรคสี่

                       ด้วยสำนักงานอัยการภาค ๖ หารือว่าปัญหาข้อขัดข้องอันเกิดจากการปฏิบัติตาม
                ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๔๗
                ข้อ ๕๔ วรรคสี่ ว่า อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา ๑-๒ ภาค จะถือว่าเป็นผู้บังคับบัญชาถัดขึ้นไปหนึ่งชั้น
                ตามความหมายในระเบียบข้อดังกล่าวหรือไม่  สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาแล้ว เห็นว่า ตาม
                ระเบียบข้อ ๔ และ ๙ กำหนดให้อัยการพิเศษฝ่ายเป็นผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบการดำเนิน
                คดีอาญาประจำศาลชั้นต้นเฉพาะในกรุงเทพมหานครเท่านั้น สำหรับในจังหวัดอื่น ๆ นอกจาก

                กรุงเทพมหานคร ผู้บังคับบัญชาหมายถึงอธิบดีอัยการภาค รองอธิบดีอัยการภาคและอัยการจังหวัด
                ดังนั้น อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา ๑ - ๒ ภาค จึงไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาตามระเบียบข้อ ๕๔ วรรคสี่
                ผู้บังคับบัญชาถัดขึ้นไปหนึ่งชั้นจากอัยการจังหวัด ได้แก่ รองอธิบดีอัยการภาค หรืออธิบดีอัยการภาค
                แล้วแต่กรณี


                
  ให้ผู้อำนวยการสถานพินิจหรือบุคคลที่ศาลสั่งให้จัดทำแผนแก้ไขบำบัดฟื้นฟูรายงานให้ศาลทราบ หากศาลเห็นชอบด้วย ให้ศาลสั่ง
                 จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ และมีคำสั่งในเรื่องของกลาง โดยให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องเป็นอันระงับ ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิผู้มีส่วน
                 ได้เสียที่จะดำเนินคดีส่วนแพ่ง”
                     พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๓๒ วรรคหนึ่ง
                 บัญญัติว่า “ในกรณีที่ศาลเห็นว่าตามพฤติการณ์แห่งคดียังไม่สมควรจะมีคำพิพากษาหรือบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือบุคคลซึ่งจำเลย
                 อาศัยอยู่ด้วยร้องขอ เมื่อศาลสอบถามผู้เสียหายแล้ว ศาลอาจมีคำสั่งให้ปล่อยตัวจำเลยชั่วคราวแล้วมอบตัวจำเลยให้บุคคลดังกล่าว
                 โดยไม่มีประกัน หรือมีประกัน หรือมีประกันและหลักประกันด้วยก็ได้ โดยกำหนดเงื่อนไข เช่น ให้จำเลยรายงานตัวต่อพนักงาน
                 คุมประพฤติหรือเจ้าพนักงานอื่นหรือบุคคลใดหรือองค์การด้านเด็ก เข้ารับการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูรับคำปรึกษาแนะนำ เข้าร่วมกิจกรรม
                 บำบัดหรือกิจกรรมทางเลือก หรือให้ใช้วิธีการเพื่อความปลอดภัยภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควร แต่ต้องไม่เกินกว่าจำเลยนั้นมี
                 อายุครบยี่สิบสี่ปีบริบูรณ์ในการนี้ศาลมีอำนาจสั่งให้บิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือบุคคลซึ่งจำเลยอาศัยอยู่ด้วยเข้าร่วมกิจกรรม
                 หรือรับคำปรึกษาแนะนำด้วยก็ได้”
                     พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๓๓ วรรคหนึ่ง
                 บัญญัติว่า “เมื่อจำเลยได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขและภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนดตามมาตรา ๑๓๒ แล้ว ให้ศาลสั่งยุติคดีโดยไม่ต้อง
                 มีคำพิพากษาเกี่ยวกับการกระทำความผิดของจำเลย เว้นแต่คำสั่งเกี่ยวกับของกลาง และให้ถือว่าสิทธินำคดีอาญามาฟ้องเป็นอัน
                 ระงับ”




                                                             อัยการนิเทศ เล่มที่ ๘๖ พ.ศ. ๒๕๖๔  125
   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139   140