Page 139 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 139

(๑๕)  หนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ อส ๐๐๐๘ (สท)/ว ๔๗๐ ลงวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๓
                เรื่อง การรับสำนวนและการสั่งคดีในสำนวนการสอบสวนที่พนักงานสอบสวนเสนอเพื่อสั่งยุติคดี
                ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. ๒๕๖๒

                       สำนวนการสอบสวนที่พนักงานสอบสวนเสนอเพื่อสั่งยุติคดีตามพระราชบัญญัติ
                การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท  พ.ศ.  ๒๕๖๒  มาตรา  ๖๔  เป็นสำนวนรู้ตัวผู้กระทำความผิดที่
                พนักงานอัยการยังไม่มีการรับตัวผู้ต้องหา จึงให้รับสำนวนดังกล่าวลงในสารบบ ส.๒ (สารบบรับ
                ความอาญาปรากฏผู้ต้องหาที่ไม่ได้ส่งตัวมา)... สำหรับประเด็นว่าพนักงานอัยการผู้ใดจะเป็น
                ผู้มีหน้าที่ออกคำสั่งนั้น ให้นำระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของ
                พนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๔๐, ๔๑ และ ๔๘ มาประกอบการพิจารณา โดยหาก
                พนักงานอัยการเห็นว่าสำนวนที่พนักงานสอบสวนเสนอเพื่อสั่งยุติคดีตามพระราชบัญญัติ
                การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตรา ๖๔ เป็นไปตามเงื่อนไขที่พนักงานอัยการจะมี
                คำสั่งยุติคดีได้ตามมาตรา ๖๖ ให้พนักงานอัยการสั่งคดีตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วย

                การดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๔๘ ว่า “ยุติการดำเนินคดีเพราะมีเหตุ
                สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. ๒๕๖๒” โดยให้
                หัวหน้าพนักงานอัยการเป็นผู้พิจารณาออกคำสั่งแล้วเสนอสำนวนให้ผู้บังคับบัญชาถัดขึ้นไป
                หนึ่งชั้นทราบโดยเร็ว แต่หากพนักงานอัยการเห็นว่าการเสนอเพื่อสั่งยุติคดีของพนักงานสอบสวน
                ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่พนักงานอัยการจะมีคำสั่งยุติคดีได้ ก็ให้พนักงานอัยการผู้มีหน้าที่ตาม
                ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๖๓
                ข้อ ๔๐ และ ๔๑ พิจารณาสำนวนคดีนั้นต่อไป

                       (๑๖)  หนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ อส ๐๐๐๘ (ปผ)/ว ๙๔ ลงวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๔
                เรื่อง การสั่งคดีกรณีร้องขอความเป็นธรรมที่จะมีคำสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหาหรือบางข้อหา ตามระเบียบ
                สำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๖๕ วรรคสี่
                ซึ่งบางข้อหาในคดีมีเงื่อนไขระงับคดี ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญา
                ของพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๔๘ วรรคห้า
                       ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ
                พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๖๕ วรรคสี่ “คดีที่มีการร้องขอความเป็นธรรม ในกรณีที่จะมีคำสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหา
                หรือบางข้อหา ให้ทำความเห็นในสำนวนแล้วเสนอตามลำดับชั้นถึงอธิบดีอัยการเพื่อพิจารณาสั่งทั้งคดี
                เมื่ออธิบดีอัยการมีคำสั่งประการใดให้ปฏิบัติตามนั้น” สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า

                คำว่า “สั่งทั้งคดี” นั้น ไม่ได้หมายความรวมถึง การสั่งยุติการดำเนินคดี ตามระเบียบสำนักงาน
                อัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๔๘ วรรคห้า ดังนั้น
                ในคดีที่มีการร้องขอความเป็นธรรมซึ่งมีหลายข้อหา ในกรณีที่จะมีคำสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหาหรือ
                บางข้อหาหรือจะมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาบางคน ให้พนักงานอัยการทำความเห็นในสำนวนแล้ว
                เสนอตามลำดับชั้นถึงอธิบดีอัยการเพื่อพิจารณาสั่งทั้งคดี หากบางข้อหาในคดีนั้นมีเงื่อนไขระงับคดี
                ให้หัวหน้าพนักงานอัยการเป็นผู้ออกคำสั่งยุติการดำเนินคดี แล้วเสนอสำนวนให้ผู้บังคับบัญชา
                ถัดขึ้นไปอีกหนึ่งชั้นทราบโดยเร็ว ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญา

                ของพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๔๘ วรรคห้า และข้อ ๖๕ วรรคสี่




                                                             อัยการนิเทศ เล่มที่ ๘๖ พ.ศ. ๒๕๖๔  129
   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143   144