Page 147 - อัยการนิเทศ (หนังสือราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด) เล่มที่ 86 พ.ศ. 2564
P. 147
วางแนวทางปฏิบัติในกรณีที่คดีขาดอายุความ หน่วยงานของรัฐยืนยันให้พนักงานอัยการฟ้องคดี
ทั้งที่เห็นแล้วว่าหากดำเนินคดีต่อไปก่อให้เกิดความเสียหายต่อไปแก่ทางราชการ เช่น เสียค่าใช้จ่าย
เสียเวลา เสียกำลังคน ในการปฏิบัติงานโดยเปล่าประโยชน์ หน่วยงานของรัฐไม่ควรนำคดีขาดอายุความ
ให้พนักงานอัยการดำเนินคดีเพราะมีผลทำให้การอำนวยความยุติธรรมของรัฐขาดความน่าเชื่อถือ
๑๒. กรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานอัยการสูงสุดมีความเห็นว่า
พนักงานอัยการและสำนักงานอัยการสูงสุด ไม่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินคดี หรือดำเนินการใด ๆ
ให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ตาม พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓
และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพิจารณาชี้ขาดการยุติข้อพิพาทระหว่างหน่วยงาน
ของรัฐและการดำเนินคดี พ.ศ. ๒๕๖๑ เพราะหลังจากกระทรวงการคลังลดสัดส่วนการถือหุ้น
ในบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แล้ว บริษัท การบินไทยจำกัด (มหาชน) ไม่มีฐานะเป็น
หน่วยงานของรัฐอีกต่อไป ตามหนังสือที่ อส ๐๐๐๗(พก)/ว ๓๒๙ ลงวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๓
๑๓. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นการบริหารจัดการข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐ
การออกระเบียบนี้ นายกรัฐมนตรีอาศัยอำนาจตามมาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง (๘) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบ
บริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี เพื่อวางระเบียบปฏิบัติ
ราชการในกรณีที่มีข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐ หรือระหว่างหน่วยงานของรัฐกับเอกชน
ระเบียบดังกล่าวนี้จึงมีฐานะเป็นกฎที่มีผลผูกพันหน่วยงานของรัฐต้องปฏิบัติตาม หน่วยงาน
ของรัฐที่มีข้อพิพาทระหว่างกัน จึงฟ้องคดีต่อศาลปกครองทันทีไม่ได้ ต้องเสนอข้อพิพาทไปยัง
สำนักงานอัยการสูงสุดภายในอายุความหรือกำหนดระยะเวลาการฟ้องคดี หากมีการฟ้องคดีปกครอง
ศาลปกครองไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา เนื่องจากไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนและวิธีการแก้ไขความเดือดร้อน
หรือเสียหายที่มีกฎหมายกำหนดไว้ในการดำเนินการยุติข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะ
ตามแนวคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ คร. ๙๐/๒๕๖๓
๑๔. คำวินิจฉัยคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษ เรื่องเสร็จที่ ๑๓๙๗/๒๕๖๓
เรื่อง สถานภาพของกองทุนเพื่อฟื้นฟูและพิจารณาระบบสถาบันการเงินและธนาคารกรุงไทย จำกัด
(มหาชน)
เดิมคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้วินิจฉัยเรื่องเสร็จที่ ๔๘๗/๒๕๓๑ กองทุนฟื้นฟูมีสถานภาพ
เป็นรัฐวิสาหกิจตามมาตร ๔ แห่ง พ.ร.บ. วิธีการงบประมาณ พ.ศ.๒๕๐๒ ต่อมามีคำวินิจฉัยที่
๒๗๓/๒๕๔๓ วินิจฉัยยืนตามหลักเดิม
ต่อมาคณะกรรมการกฤษฎีกา ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้วินิจฉัยว่า กองทุนฟื้นฟูไม่เป็นองค์การ
ของรัฐบาลตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐ และไม่เป็นหน่วยงานธุรกิจที่รัฐบาล
เป็นเจ้าของ ดังนั้น กองทุนฟื้นฟูจึงไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตาม (๑) แห่งบทนิยาม คำว่า “รัฐวิสาหกิจ”
ตามมาตรา ๔ แห่ง พ.ร.บ. วิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งหากจะเป็นหน่วยงานของรัฐจะต้องขอรับ
หรือได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเท่านั้น เมื่อปรากฏว่ากองทุนฟื้นฟู ถือหุ้น ๕๕.๐๗ เปอร์เซ็นต์
ของหุ้นทั้งหมดของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จึงไม่เป็น
รัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา ๔ แห่ง พ.ร.บ. วิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เท่านั้น ส่วนจะเป็น
รัฐวิสาหกิจหรือเป็นหน่วยงานของรัฐตามกฎหมายอื่นหรือไม่ คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้วินิจฉัย
ถึงเรื่องดังกล่าวไว้
อัยการนิเทศ เล่มที่ ๘๖ พ.ศ. ๒๕๖๔ 137