Page 43 - คู่มือแนวทางป้องกันยาเสพติดในครอบครัวด้วยทักษะสมอง EF (Executive Functions) : สำหรับผู้ปฏิบัติงาน
P. 43

1.
                                     ก�รัสำรั��งวินัยเชิงบวกเป็นแนวท�งก�รัปล้กฝ้ังจิติสำำ�นึก 2 เรั่�องที�สำำ�คัญติ่อ
             แนวทางกัารป้ล้กัฝึัง  ก�รัพััฒน�และก�รัดำ�รังชีวิติอย่�งปกติิสำุข ซึ�งได�แก่ ก�รัมีวินัยในตินเองและ
             จิติสำนึกั เรื�องกัาร  คว�มเห็นอกเห็นใจผู้้�อ่�น ดังนั�น ครั้ปฐมวัยและพั่อแม่จึงเป็นบุคคลสำำ�คัญ ที�จำ�เป็น
             ม่วินัยในตินเอง และ
             ความเห็นอกัเห็นใจ     ติ�องอบรัมเลี�ยงด้ช่วยสำ่งเสำรัิมพััฒน�ให�เด็ก สำ�ม�รัถช่วยเหล่อด้แลตินเองและ
             ผู้้้อื�น             ผู้้�อ่�นในสำังคม ด�วยวิธีก�รัสำอนที�อย้่บนพั่�นฐ�นของก�รัเค�รัพัสำิทธิ คว�มรั้�สำึกและ
                                   ก�รัติัดสำินใจของเด็ก เพั่�อเป็นแบบอย่�งให�เด็กได�เรัียนรั้�และดำ�เนินรัอยติ�ม
                                   นำ�ไปปฏิิบัติิติ่อผู้้�อ่�นได�ติ่อไปในอน�คติ
                                     ก�รัลงโทษั ก�รัใช�คำ�พั้ดที�ทำ�รั��ยจิติใจ ก�รัทำ�รั��ยรั่�งก�ย ก�รัไม่ยอมรัับฟื้ัง

                                   คว�มติ�องก�รัและคว�มคิดเห็นของเด็ก ล�วนเป็นวิธีก�รัที�ลิดรัอนสำิทธิของเด็ก
                                   ทั�งสำิ�น อีกทั�งยังเป็นก�รัลดคุณค่�คว�มเป็นมนุษัย์ หล่อหลอมให�เด็กเป็นคน
                                   ข�ดคว�มภ�คภ้มิใจในตินเอง โหยห�คว�มรััก คว�มอบอุ่น คว�มมั�นคงปลอดภัย

                                   ในชีวิติ ยึดติิดอย้่แติ่คว�มติ�องก�รัของตินเอง จนไม่สำ�ม�รัถพััฒน�เป็นจิติสำำ�นึก
                                   ที�ดีติ่อตินเองและผู้้�อ่�นได� (Dreikurs, Cassel, & Furguson, 2004; Dreikurs &
                                   Soltz,1991, Nelsen, 2006)


              2.                       ก�รัสำรั��งวินัยเชิงบวก หม�ยถึง กรัะบวนก�รัสำอนและก�รัฝ้ึกฝ้นพัฤติิกรัรัมที�

             กัระบวนกัารสอน        เหม�ะสำมอย่�งติ่อเน่�อง เพั่�อให�เกิดเป็นกรัะบวนก�รัควบคุมภ�ยในตินเอง (Internal
             (Teaching) และ        Control Process) ซึ�งติ�องอ�ศิัยก�รัสำั�งสำมปรัะสำบก�รัณ์เป็นรัะยะเวล�น�น พัอที�
             กัารฝึึกัฝึน (Training)   จะทำ�ให�เด็กคนหนึ�งเรัียนรั้�ทักษัะในก�รัดำ�เนินชีวิติ ไปพัรั�อม ๆ กับก�รัฝ้ึกฝ้น
             ท่�ป้ราศูจากั
             ความรุนแรง            กรัะบวนก�รัควบคุมและกำ�กับพัฤติิกรัรัมของตินเอง ให�สำอดคล�องกับสำังคมและ
                                   สำิ�งแวดล�อม จนเกิดเป็นทักษัะ ลักษัณะนิสำัย และจิติสำำ�นึกปรัะจำ�ติัว

                                       ดังนั�น ก�รัสำรั��งวินัยเชิงบวกจึงหลีกเลี�ยงกรัะบวนก�รัสำอนที�ใช�ก�รัลงโทษัและ
                                   คว�มรัุนแรัง ทั�งท�งว�จ� จิติใจ และรั่�งก�ย อย่�งสำิ�นเชิง เพัรั�ะเป็นกรัะบวนก�รั
                                   ควบคุมภ�ยนอก (External Control Process) ที�กรัะติุ�นกรัะบวนก�รัทำ�ง�น
                                   ของสำมองสำ่วนสำัญช�ติญ�ณ ให�หยุดพัฤติิกรัรัมที�ไม่เหม�ะสำมเพัียงชั�วขณะเท่�นั�น

                                   จ�กคว�มกลัว คว�มโกรัธ และคว�มรั้�สำึกไม่ปลอดภัย แติ่ในรัะยะย�วไม่สำ�ม�รัถ
                                   ช่วยสำ่งเสำรัิมพััฒน�ให�เด็กเกิดจิติสำำ�นึกที�ดีได�


                                   กัารสร้างวินัยเชิงบวกัจึงควรหล่กัเล่�ยงกัระบวนกัารสอนท่�ใช้กัารลงโทษ
                                   และความรุนแรงทั�งทางวาจา จิติใจ และร่างกัาย อย่างสิ�นเชิง







        42   คู่่�มืือ แนวทางป้้องกัันยาเสพติิดในคู่รอบคู่รัว
             ด้้วยทัักษะสมอง EF (Executive Functions)
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48