Page 55 - คู่มือแนวทางป้องกันยาเสพติดในครอบครัวด้วยทักษะสมอง EF (Executive Functions) : สำหรับผู้ปฏิบัติงาน
P. 55

ติัวอย�าง เช่น คำ�ว่� “ห��ม” “ไม่” “อย่�” และ “หยุด” เป็นคำ�พั้ดที�สำมองติ�องทำ�ก�รั
                      ปรัะมวลผู้ล 2 ครัั�ง เพัรั�ะสำมองไม่สำ�ม�รัถสำรั��ง “ภ�พัปฏิิเสำธ” ขึ�นม�ในสำมองก่อนได�

                      เม่�อเรั�บอกว่� “ไม่วิ�ง” เด็ก ๆ จะติ�องสำรั��งภ�พั “วิ�ง” ขึ�นม�ในสำมองก่อน แล�วจึงนำ�ไป
                      ปรัะมวลผู้ลรัวมกับคำ�ว่� ไม่วิ�ง อีกครัั�งหนึ�ง เพั่�อแปลผู้ลออกม�เป็นคำ�ว่�ไม่วิ�ง เม่�อก�รัแปลผู้ล

                      ซับซ�อนเช่นนี� แติ่ทักษัะสำมอง EF ยังไม่ดีพัอ สำม�ธิจดจ่อในก�รัแปลสำั�นก็จะทำ�ให�เด็กเล็ก
                      เกิดคว�มสำับสำนได�ง่�ย จึงแสำดงพัฤติิกรัรัมออกม�ติ�มสำิ�งที�ได�ยินและเข��ใจเท่�นั�น จึงเป็น

                      เหติุผู้ลอธิบ�ยว่� ทำ�ไมเม่�อเรั�พั้ดว่� “ไม่วิ�ง” เด็กจึงวิ�ง
                            นอกจ�กนี�บ�งครัั�งคำ�ว่� “ห��ม” “ไม่” “อย่�” และ “หยุด” ยังเป็นก�รัชี�นำ�เด็กให�ทำ�พัฤติิกรัรัม

                      ที�ไม่เหม�ะสำมอีกด�วย เช่น “อย่�จิ�มเค�กนะ” “ติอนคุณหมอฉัีดย�ไม่ติ�องกลัวนะคะ”
                        บ�งทีเด็กยังไม่ทันคิดว่�จะจิ�มเค�ก หรั่อ จะกลัวคุณหมอฉัีดย� แติ่เม่�อพั้ดเติ่อนขึ�นม�

                      เด็กก็จะเอ�ม่อจิ�มเค�ก หรั่อ กลัวคุณหมอฉัีดย�ขึ�นม�ทันที เหติุที�เป็นเช่นนั�นก็เพัรั�ะว่�
                      ก�รัแปลผู้ลที�สำลับซับซ�อนไปติรังกับคว�มรั้�สำึกของเด็ก จึงเกิดเป็นแรังผู้ลักภ�ยใน

                      อย่�งแรังกล��ที�ทำ�ให�เด็กแสำดงพัฤติิกรัรัมนั�น ๆ ออกม� ก่อนที�สำมองจะทันแปลผู้ล และ
                      สำั�งก�รัควบคุมพัฤติิกรัรัม



                      ช่วยสร้างสิ�งแวดล้อมท่�เหมาะสมติ่อกัารพัฒนาทักัษะสมอง EF

                        ก�รัสำรั��งวินัยเชิงบวกเป็นเครั่�องม่อที�ช่วยสำรั��งสำิ�งแวดล�อม บรัรัย�ก�ศิภ�ยในบ��นและ

                      ห�องเรัียนให�เอ่�อติ่อก�รัเรัียนรั้�และพััฒน�ทักษัะสำมอง EF เน่�องจ�กครั้ปฐมวัยและพั่อแม่ที�ใช�
                      ก�รัสำรั��งวินัยเชิงบวกจะสำ�ม�รัถช่วยผู้่อนคล�ยอ�รัมณ์ ทำ�ให�คว�มคับข�องใจภ�ยในของเด็ก

                      ลดลง อย้่ในรัะดับที�เด็กสำ�ม�รัถควบคุมอ�รัมณ์ติัวเองได� รัวมถึงสำ�ม�รัถสำรั��งสำิ�งแวดล�อม
                      ภ�ยนอกให�มีคว�มสำันติิ ปลอดภัย และสำ�ม�รัถค�ดเด�ได� สำมองลิมบิกจึงสำ�ม�รัถเช่�อมโยง

                      ข�อม้ลกับสำมองสำ่วนหน��ได�  เกิดเป็นทักษัะสำมอง EF ที�เด็กใช�ในก�รักำ�กับควบคุมตินเองไป
                      จนบรัรัลุเป้�หม�ย



                             พัฒนากัารและกัระบวนกัารทำงานของสมอง จิติใจ และพฤติิกัรรมของเด็กัในช่วงป้ฐมวัย
                     EF      เป้็นเรื�องละเอ่ยดอ่อน ท้าทายเด็กัและผู้้้เล่�ยงด้มากั ในขณ์ะท่�เด็กัม่ความติ้องกัารพื�นฐาน
                             ทางร่างกัายและจิติใจมากั แติ่ยังม่พัฒนากัารและป้ระสบกัารณ์์น้อย จึงยังไม่สามารถ้
                             ควบคุมความติ้องกัารของตินเองและแสดงออกัมาเป้็นพฤติิกัรรมท่�เหมาะสมได้ด่นักั







        54   คู่่�มืือ แนวทางป้้องกัันยาเสพติิดในคู่รอบคู่รัว
             ด้้วยทัักษะสมอง EF (Executive Functions)
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60